ข่าวสารและบทความ

" ตู้เซฟแคชเชียร์ " ที่พี่ ๆ ร้านอาหารไว้วางใจ!!!

กุมภาพันธ์ 15, 2023

" ตู้เซฟแคชเชียร์ " ที่พี่ ๆ ร้านอาหารไว้วางใจ!!!
" ตู้เซฟแคชเชียร์ " ที่พี่ๆร้านอาหารไว้วางใจ!!! SentrySafe ตู้เซฟคุณภาพสูงจาก USA ตอบโจทย์การจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมั่นใจ ให้ทุกจังหวะของงานแคชเชียร์เป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติ ลุคดุดันไม่เกรงใจใคร ฟังก์ชันดีไซน์ระดับ Hi-end DIGITAL LOCK ทำงานด้วยระบบล็อคดิจิตอล พร้อมDelay mode ฟีเจอร์หน่วงเวลา เมื่อกดรหัสผิดพลาด ANTI-DRILL DOOR ดีไซน์ป้องกันการเขียล้วงขโมยทรัพย์สินจากช่องใส่เงิน ANTI-DRILL DOOR บานประตูถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการเจาะทำลาย STEEL CONSTRUCTION โครงสร้างผลิตจากเหล็กกล้า แข็งแรง ทนทาน 3 LIVE-LOCKING BOLTS ปลอดภัยด้วยระบบล็อคกลอนสลัก 3 ต่ำแหน่ง BOLT DOWN HARDWARE มาพร้อมอุปกรณ์ยึดพื้น หรือผนัง เพื่อป้องกันการยกย้าย ให้ "ตู้เซฟเก็บเงินสด" เป็นเสมือนธนาคารไซซ์มินิที่ช่วยได้ทั้งการลดขั้นตอน พร้อมเพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกกิจกรรมของงานแคชเชียร์ รายละเอียดกลุ่มเซฟเก็บเงินสดทุกรุ่น Deposit safe ติดตามข่าวสารได้ที่ Website : www.Naradee.com Line ID : @naradee หรือคลิก LINE Tel. 080-8045445
HG Tips เพื่อนคู่คิด พร้อมพิชิตหลังน้ำลด...

กันยายน 20, 2022

HG Tips เพื่อนคู่คิด พร้อมพิชิตหลังน้ำลด...
ตอบทุกโจทย์ หมดทุกปัญหา “เชื้อรา คราบน้ำ หรือตะไคร่สะสม” การเข้าทำความสะอาดอย่างรวดเร็วในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วง 48 ชม. แรก หลังจากมวลน้ำลดลง รวมกับการคัด แยกเฟอร์นิเจอร์จำพวกงานไม้ โซฟา พรม หรือวัสดุต่างๆ ที่มีความสามารถในการดูดซับน้ำได้เป็นอย่างดีออกจากพื้นที่ นอกจากจะช่วยลดความเสียหายที่มักเกิดขึ้นกับวัสดุ หรืออุปกรณ์ต่างๆ แล้ว ยังนับเป็นขั้นตอนสำคัญในการกำจัด เชื้อโรค และคราบสะสมต่างๆ โดยเฉพาะกับ “เจ้าตัวเชื้อรา” ที่มักเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอย่างร้ายแรง ซึ่งหนึ่งในจุดที่ไม่ควรพลาดก่อนการคลีนนิ่ง! เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายตัวของเชื้อราอย่างได้ผล คือ การกำจัดวง รัศมีตามรอยคราบ หรือแนวราดำที่มีการก่อตัวในบริเวณนั้นๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีคุณสมบัติใน การ “กำจัดเชื้อราดำ” ในระดับของสปอร์นั่นเอง จากนั้นจึงค่อยทำการพิจารณาถึงรอยคราบน้ำ หรือตะไคร่ โดยเฉพาะกับในพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับการท่วมขังของน้ำโดยตรง ทั้งในบริเวณของพื้นบ้าน หรือแนวกำแพงในแนวตั้ง ยิ่งมีการสะสมอยู่เป็นเวลานาน... ยิ่งต้องการวิธีการขจัดคราบให้ถึงในระดับของรูพรุน (porous) แม้ว่าโดยทั่วไป มักมีการแนะนำให้ใช้น้ำยาที่ผสมคลอรีน (chlorine bleach) ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำความสะอาด และการฆ่าเชื้อที่ดีแล้วก็จริง แต่ส่วนใหญ่กลับยังไม่ค่อยพบถึงข้อมูลในสิ่งที่เหล่า “คนรักษ์บ้าน” อยากทราบกัน ทั้งในเรื่องของการเกิดผลเสีย หรืออาจทำลายต่อวัสดุพื้นผิวใดๆ บ้างหรือไม่ หากความพรุน และลักษณะทางโครงสร้างของพื้นผิว กลับยังเป็นหัวข้อสำคัญให้คุณได้พิจารณาถึงวิธีการทำความสะอาดสำหรับเคสนี้... การใช้ผลิตภัณฑ์ภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นบ้านที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการขจัดคราบได้ลึกถึงในระดับของรูพรุน และยังคงรักษาสภาพทางโครงสร้างของวัสดุไว้ได้เป็นอย่างดีนั้น... ย่อมช่วยตอบทุกโจทย์ หมดทุกปัญหาของเรื่อง “เชื้อรา คราบน้ำ หรือตะไคร่สะสม” หลังน้ำลดได้นั่นเอง “HG พิชิตคราบหลังน้ำลด” - HG บาธรูม โมลด์ สเปรย์ ขนาด 500 มล. - HG เอ็กซ์ พาว คลีนเนอร์ ขนาด 1 ลิตร อ้างอิงข้อมูลจาก : www.fema.gov/pdf/rebuild/recover/ www.c-cure.com/doc/techBulletins/ www.floodsafety.com/national/property/cleanup/
HG Tips : ไกด์ทริค 3 วิธี... ดีต่อ “ร่องยาแนว”

สิงหาคม 23, 2022

HG Tips : ไกด์ทริค 3 วิธี... ดีต่อ “ร่องยาแนว”
HG Tips : ไกด์ทริค 3 วิธี... ดีต่อ “ร่องยาแนว” ทั้งในห้องน้ำ และกับห้องครัว เพราะโครงสร้างของยาแนวที่เป็นรูพรุน (porous) สลับชั้นกันอยู่เป็นจำนวนมาก มักส่งผลให้เกิดการดูดซับจากทั้งความชื้น สิ่งสกปรก คราบตะกรัน รวมทั้งคราบน้ำมันหลังการทำครัวอย่างที่หลีกเลี่ยงได้ยากมาก! ซึ่งหากเราทำความสะอาดได้ไม่ดี ก็มักจะก่อให้เกิดคราบสกปรกสะสม หรือในกรณีที่แย่กว่านั้น... ก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา (Mould) ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ในท้ายที่สุดนั่นเอง “ทำไมร่องยาแนวถึงสกปรกง่าย?” เพราะกิจวัตรประจำวันต่างๆ โดยเฉพาะจากการอาบน้ำและการทำครัวนี้เองจึงทำให้ทั้งคราบน้ำ คราบไขมัน หรือคราบสะสมที่เกิดจากการใช้พื้นที่นั้นซ้ำๆ ล้วนยิ่งทำให้ความชื้นสามารถซึมเข้าสู่ร่องยาแนวได้ไม่มากก็น้อย และหากปล่อยทิ้งไว้นานวัน(โดยไม่ได้รับการดูแล) ก็อาจเกิดขึ้นได้ทั้งคราบสกปรก คราบราดำ รวมทั้งสีของยาแนวที่มีความหม่นหมองก่อนเวลาอันควร ซึ่งทั้งหมดนั้น มิได้มีเฉพาะเหตุผลในด้านสุขอนามัยเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้คงไว้ซึ่งความสวยงามด้วยเช่นกัน เราจึงมีเคล็ดลับดีๆสำหรับ “คนรักษ์บ้าน” ที่ช่วยให้การทำความสะอาดยาแนวเป็นเรื่องง่ายๆ และยังส่งผลดีต่อพื้นผิววัสดุได้ในเวลาเดียวกัน... ด้วย 3 เทคนิคง่ายๆดังนี้ 1. การปกป้องร่องยาแนวจากคราบต่างๆ หากเราป้องกันไม่ให้คราบไขมัน สิ่งสกปรก ความชื้น หรือคราบตะกรันต่างๆสามารถแทรกซึมเข้าไปได้ ยาแนวของเราก็จะอยู่ในสภาพที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และไม่เกิดคราบฝังลึก แม้โดยส่วนใหญ่แล้วกูรูมักจะแนะนำให้ถูด้วยเทียนไขลงบนยาแนวเพื่อสร้างชั้นกันน้ำและสิ่งสกปรกต่างๆได้ก็จริงอยู่ แต่วิธีการดังกล่าว ก็อาจมีส่วนให้การเกิดความเสียหายได้ของชั้นโครงสร้างในภายหลังได้เช่นกัน (หากจุดนั้นๆ คราบน้ำสามารถแทรกซึมผ่านเข้าไปได้ จนเกิดการสะสมของความชื้นมากขึ้น แล้วไม่สามารถระบาย ออกได้นั่นเอง) ซึ่งจุดนี้เอง ที่นับว่าเป็นความแตกต่างจากการเคลือบปกป้องด้วย HG super protector สำหรับร่องยาแนวของผนัง และพื้นโดยเฉพาะ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ให้การปกป้องสูงสุดด้วยการสร้างชั้นเคลือบผิว เพื่อป้องกันคราบสกปรกและยังคงคุณสมบัติในการระเหยของความชื้นไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การระบายอากาศที่ดี การระบายอากาศที่ดีก็นับเป็นอีกหัวข้อที่สำคัญ เพราะความชื้นที่แทรกซึมและสะสมอยู่ตามร่องยาแนวเป็นเวลานานๆย่อมเป็นสาเหตุของเกิดเชื้อราดำขึ้นได้นานๆ ย่อมเป็นสาเหตุของเกิดเชื้อราดำขึ้นได้ซึ่งการเปิดประตูทิ้งไว้ แล้วใช้พัดลมเพื่อช่วยให้เกิดการถ่ายเทของอากาศอยู่เป็นประจำ ก็นับว่าเป็นเช็คลิสต์ที่สำคัญในการป้องกันปัญหานี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่หากเกิดคราบราดำ หรือมีการเริ่มกระจายตัวของเชื้อราแล้ว เราแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อราได้ตั้งแต่ในระดับของสปอร์อย่าง “HG โมลด์ สเปรย์” เพื่อการจำกัดพื้นที่และขจัดคราบสะสมที่เป็นหนึ่งใน สาเหตุหนึ่งของโรคทางเดินหายใจที่เป็นอันตราย 3. ทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ การหมั่นทำความสะอาดที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย และสะดวกอย่างสเปรย์ทำความสะอาดหรือการเปลี่ยนน้ำในถังน้ำอยู่เป็นประจำ ก็มีส่วนช่วยป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าซึมลงลึกเข้าไปในร่องยาแนว และทิ้งคราบไว้ดั่งยังมิได้ทำความสะอาดนั่นเองซึ่งการป้องกันไม่ให้ยาแนวสกปรกก่อนเวลาอันควร หรือยากต่อการทำความสะอาด รวมทั้งการทำให้ยาแนวมีรูพรุนน้อยลง แต่ยังคงการระบายอากาศที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงทั้งความหม่นหมอง และสุขอนามัยที่ดี ย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญ... แม้ในจุดเล็กๆ ตามร่องยาแนวก็ตาม รายการผลิตภัณฑ์ HG สำหรับการดูแลร่องยาแนวให้สะอาดอยู่เสมอ – HG เคลือบยาแนว ขนาด 250 มล. - น้ำยาเคลือบกันคราบสกปรกทุกชนิด ไม่ให้ซึมลงร่องยาแนว และช่วย ป้องกันการเกิดราดำ – HG สเปรย์ทำความสะอาดยาแนว ขนาด 500 มล. - ขจัดคราบตามร่องยาแนว คราบฝุ่นฝังแน่น คราบไขมัน – HG บาธรูม โมลด์ สเปรย์ ขนาด 500 มล. - กำจัดคราบเชื้อราและคราบราดำในห้องน้ำ
 ตอบชัดๆ แบบมือโปร! “โซฟาผ้า” ควรทำความสะอาดอย่างไร?

เมษายน 26, 2022

ตอบชัดๆ แบบมือโปร! “โซฟาผ้า” ควรทำความสะอาดอย่างไร?
ตอบชัดๆ แบบมือโปร! “โซฟาผ้า” ควรทำความสะอาดอย่างไร? ยิ่งรอยคราบเปื้อนนั้นๆ เกิดการซึมลึกจนขจัดออกได้ยาก… ยิ่งมักเป็นรอยด่าง และติดอยู่กับโซฟาตัวนั้นๆ ได้ไปตลอดกาล… แม้ “โซฟาผ้า” จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกของผิวสัมผัสอันอ่อนนุ่ม และชวนหลงใหลไปด้วยสีสัน หรือลวดลายที่มีให้เลือกอยู่อย่างมากมายหลากหลายชนิด แต่หากขาดการดูแลที่ดี และการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ก็มักส่งผลให้เกิดการกักเก็บของฝุ่น คราบสะสมที่ขจัดออกยาก และการเสื่อมเสียของโครงสร้างก่อนเวลาอันควร (ในกรณีที่ใช้น้ำยาผิดวัตถุประสงค์ และมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนที่ค่อนข้างรุนแรง) ซ้ำร้ายอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่คนส่วนใหญ่อาจมองข้ามได้ด้วยเช่นกัน เราจึงนำเคล็ดลับการดูแล และการขจัดคราบสกปรกบนโซฟา (รวมทั้งพรม) อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากทุกคนได้ลองดูกันจ้า 1.ลองสังเกตุที่ลักษณะเนื้อผ้า และหากมีคำแนะนำจากผู้ผลิต หรือป้าย Care Tag (แผ่นสีขาวเล็กๆ) จะมี Cleaning Code เขียนกำกับไว้ เพื่ออธิบายว่า โซฟาตัวนั้นๆ ควรต้องทำความสะอาดด้วยวิธีการอย่างไร ก็ให้เราลองทำความสะอาดตามคำแนะนำ ซึ่งโดยหลักๆ จะมีประเภทของการทำความสะอาด 2.ดูดฝุ่นก่อนถูเช็ดด้วยน้ำสะอาด เพื่อเป็นการดักเก็บสิ่งสกปรกที่อยู่ชั้นบนสุด และสามารถหลุดออกได้โดยง่าย พร้อมทั้งลดการการสะสมของสิ่งสกปรกไม่ให้เป็นคราบฝังลึกลงในเนื้อผ้านั่นเอง 3.ทำความสะอาด และเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะกับประเภทของโซฟาผ้าแต่ละชนิด ซึ่งตัวเลือกอย่าง “เอชจี เอ็กตร้า สเปรย์” ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยคุณสมบัติพลังออกซิเจน (active oxygen) ช่วยให้การขจัดคราบที่หนัก และปกป้องการเกิดคราบสะสมใหม่ (dirt-repellent effect) จึงนับว่า ช่วยให้การทำความสะอาดโซฟาผ้าและพรมนั้น สามารถทำได้โดยง่าย และเป็นประจำในทุกๆ ครั้งที่มีคราบสกปรกสะสม คราบหกเลอะเทอะ หรือคราบเปอะเปื้อนได้อย่างทันท่วงที “เอชจี เอ็กซ์ตร้า” ให้การขจัดทุกคราบบน “โซฟาผ้า” เป็นเรื่องง่าย!!! www.naradee.com/HG-stain-spray-extra-strong 1. ลองสังเกตุที่ลักษณะเนื้อผ้า และหากมีคำแนะนำจากผู้ผลิต หรือป้าย Care Tag (แผ่นสีขาวเล็กๆ) จะมี Cleaning Code เขียนกำกับไว้ เพื่ออธิบายว่า โซฟาตัวนั้นๆ ควรต้องทำความสะอาดด้วยวิธีการอย่างไร ก็ให้เราลองทำความสะอาดตามคำแนะนำ ซึ่งโดยหลักๆ จะมีประเภทของการทำความสะอาด ดังนี้ W - Water-based Cleaner สามารถใช้น้ำในการทำความสะอาดได้ S - Solvents สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาด และตัวทำละลายบางชนิด เช่น สารฟอกขาว หรือเบคกิ้งโซดาในการทำความสะอาด แต่ห้ามใช้น้ำเปล่าในการทำความสะอาด WS - ​Water-based Cleaner & Solvents สามารถทำความสะอาดโดยการใช้น้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือตัวทำละลายได้ X - สามารถทำความสะอาดได้โดยการใช้เครื่องดูดฝุ่นเท่านั้น ไม่สามารถใช้น้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือสารเคมีใดๆ ได้ 2.ดูดฝุ่นก่อนถูเช็ดด้วยน้ำสะอาด เพื่อเป็นการดักเก็บสิ่งสกปรกที่อยู่ชั้นบนสุด และสามารถหลุดออกได้โดยง่าย พร้อมทั้งลดการการสะสมของสิ่งสกปรกไม่ให้เป็นคราบฝังลึกลงในเนื้อผ้านั่นเอง 3.ทำความสะอาด และเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะกับประเภทของโซฟาผ้าแต่ละชนิด 3.1 หากเป็นรุ่นที่สามารถถอดออกมาซักได้ ทางเราแนะนำให้ใช้วิธีการซักมือ และหลีกเลี่ยงการซัก ด้วยเครื่องในทุกกรณี เพราะมักจะส่งผลให้เกิดการเสียทรง รอยยับ การเกิดขุย หรือความเสียหายของเนื้อผ้า 3.2 จากนั้นทำความสะอาดตามการแนะนำที่ระบุไว้บน Care Tag 3.3 โดยหลักๆ นั้น ให้เราระวังในเรื่องความชุ่มของน้ำไม่ให้มีปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะความชื้น ในระหว่างการทำความสะอาด อาจเกิดการสะสมอยู่ตามเส้นใยผ้า จนเป็นสาเหตุของเชื้อรา และจุดสะสมของคราบฝุ่นได้อย่างง่ายดาย 3.4 หากโซฟาอยู่ในกลุ่มที่สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดได้ ให้ทดลองเช็ดถูเบาๆในบริเวณเล็กๆดูก่อน เพื่อทดสอบการออกฤทธิ์ และการกัดกร่อนร่วมด้วยว่า สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้กับโซฟาตัวนั้นได้อย่างแท้จริงหรือไม่ จึงทำให้การทำความสะอาดอย่างเป็นประจำด้วย “เอชจี เอ็กตร้า สเปรย์” ที่มีคุณสมบัติในการขจัดคราบฝังแน่น ด้วย“พลังออกซิเจน”(คุณสมบัติเดียวกันกับการขจัดคราบหนักบนเสื้อผ้า) ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีและมีประสิทธิภาพ มากกว่าการใช้เบคกิ้งโซดา หรือสารฟอกขาว ซึ่งในบางกรณี มักสร้างความเสียหายมากจนถึงในระดับของเส้นใยผ้า จนเป็นเหตุของเกิดทั้งความหม่นหมองของสีผ้า และปัญหาของรอยด่างในเวลาต่อมานั่นเอง ซึ่งตัวเลือกอย่าง “เอชจี เอ็กตร้า สเปรย์” ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยคุณสมบัติพลังออกซิเจน (active oxygen) ช่วยให้การขจัดคราบที่หนัก และปกป้องการเกิดคราบสะสมใหม่ (dirt-repellent effect) จึงนับว่า ช่วยให้การทำความสะอาดโซฟาผ้าและพรมนั้น สามารถทำได้โดยง่าย และเป็นประจำในทุกๆ ครั้งที่มีคราบสกปรกสะสม คราบหกเลอะเทอะ หรือคราบเปอะเปื้อนได้อย่างทันท่วงที * ขจัดคราบสกปรกฝังแน่น เช่น คราบซอส, ช็อกโกแลต, น้ำผลไม้, ไวน์, กาแฟ, ลิปสติก, ยาขัดรองเท้า, คราบไขมัน หรือคราบฝุ่นฝังแน่น ฯลฯ * ประสิทธิภาพสูงด้วยพลังออกซิเจน ทำให้ขจัดคราบได้อย่างหมดจด * ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ * เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งกับพรม, เฟอร์นิเจอร์บุผ้า, เบาะผ้าในรถยนต์ “เอชจี เอ็กซ์ตร้า สเปรย์” ให้การขจัดทุกคราบบน “โซฟาผ้า” เป็นเรื่องง่าย!!! www.naradee.com/HG-stain-spray-extra-strong Ref. * https://hg.eu/uk/tips/how-to-remove-stains-from-a-sofa#hg-removes-all-stains-from-a-sofa * https://www.thespruce.com/how-to-use-oxygen-bleach-2146373 * https://www.livinginsider.com/inside_topic/8186/fablic-sofa-cleaning-technique.html * https://www.banidea.com/how-to-choose-a-sofa/ * https://www.merrymaids.com/cleaning-tips/diy/how-to-clean-a-fabric-sofa/
คุณรู้ได้ไงว่า ตู้เซฟใบนั้น… “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!”

มีนาคม 26, 2022

คุณรู้ได้ไงว่า ตู้เซฟใบนั้น… “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!”
คุณรู้ได้ไงว่า ตู้เซฟใบนั้น… “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!” อะไรกันแน่ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้… “SentrySafe มีคำตอบ” แม้จะเป็นหนึ่งในคำถามที่พบได้บ่อยที่สุดในการเลือกซื้อตู้เซฟก็ตาม แต่กลับยังมีน้อยคนนักที่จะเข้าใจในเรื่องมาตรฐานของการป้องกันไฟอย่างแท้จริง ต้องเป็นการทดสอบกับนาฬิกา? ต้องเป็นการทดสอบกับทอง? ต้องเป็นการทดสอบกับเพชร หรือเครื่องประดับ? คำตอบคือ “ไม่ใช่ทั้งหมด” เพราะมาตรฐานระดับโลกนั้น จริงๆ เป็นการทดสอบกับเจ้าพวกกระดาษ หรือเอกสารต่างหาก❗️ ใช่แล้ว... มาตรฐานการทดสอบจากสถาบันชั้นนำอย่าง UL* (Underwriters Laboratories) ของสหรัฐอเมริกานั้น ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า… ตู้เซฟที่จะผ่านการรับรองคุณภาพได้นั้น “แม้แต่เอกสารต่างๆ..ก็ต้องไม่ได้รับความเสียหายใดๆ” เพราะกระดาษ หรือเอกสารต่างๆ นับเป็นวัตถุไวไฟอันดับต้นๆ ที่สามารถถูกทำลายได้ที่ 232 °C นั่นเอง (เมื่อเทียบกับทองที่อุณหภูมิ 1,064 °C และเพชรที่อุณหภูมิ 1,878°C) ????โดยการทดสอบของ UL นั้น.. จะกำหนด Level ของอุณหภูมิกับเวลาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดจำลองเหตุเพลิงไหม้ ????และในภาพคือกราฟของ SentrySafe ที่ผ่านรับรองแล้วว่า สามารถกันไฟได้สูงสุดที่ 1,010 °C เป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยที่เอกสารภายในไม่ได้รับความเสียหายใดๆ*!!! *หลังให้ความร้อน 2 ชั่วโมงยังมีการเฝ้าสังเกตุอีก 68 ชั่วโมง เพราะตู้เซฟยังมีการดูดซับความร้อน และอุณหภูมิยังคงสูงขึ้นอีก ข้อมูลเซฟกันไฟทุกรุ่น www.naradee.com/SENTRYSAFE *UL หรือ Underwriters Laboratories เป็นหน่วยงานทดสอบด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และด้วยขั้นตอนการทดสอบอันเข้มงวด *ทำให้ผลิตภัณฑ์ใดๆที่ได้รับการรับรอง และมีตราสัญลักษณ์นี้ปรากฏอยู่ เหมือนอย่าง SentrySafe ก็จะไม่บอกคุณแค่เพียงว่า “รุ่นนี้กันไฟได้ x ชั่วโมง” แต่จะกระซิบเบาๆให้คุณได้รู้ว่า...”เราน่ะเป็นตัวจริงเรื่องเซฟกันไฟ!!!” *SentrySafe ยังได้รับการรับรองจาก ETL อีกด้วย ติดตามข่าวสารได้ที่คลิก www.naradee.com/SENTRYSAFE #SentrySafeThailand #madeinUSA #ดิจิตอลเซฟ #ตู้เซฟกันไฟ
“Gilly's” เคลือบไม้สูตรธรรมชาติ… made in Australia

มีนาคม 16, 2022

“Gilly's” เคลือบไม้สูตรธรรมชาติ… made in Australia
หาก “รักษ์งานไม้” ต้องรู้จัก “Gilly's” โปรดักซ์ดีๆ… made in Australia แบรนด์จากประเทศออสเตรเลียที่มีสตอรี่มายาวนานกว่า 3 เจเนอเรชั่น ซึ่งได้รับการก่อตั้งโดย Gilly Stephenson ณ ย่านเมืองเพิร์ท (Perth) อันมีจุดเริ่มต้นจากสูตร “น้ำยาขัดเงาไม้“ (polish) เพื่อใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ และงานไม้แอนทีคในห้องครัวของตนเอง (ซึ่งได้นำเคลื่อนย้ายมาด้วย หลังจากต้องย้ายถิ่นฐานมาจากบ้านเกิดเพียงเท่านั้น) แต่ด้วยเสน่ห์ และไฮไลต์ที่ซ่อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยเฉพาะการผลิตด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% และคุณสมบัติด้านการปกป้องผิวไม้ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้เป็นที่กล่าวขวัญ และเกิดการทดลองใช้กันในพื้นที่โดยรอบ ทั้งกลุ่มของเพื่อนบ้าน และร้านเฟอร์นิเจอร์แอนทีคต่างๆ จึงทำให้แบรนด์ “Gilly's” เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง หลังจากเริ่มวางจำหน่ายนับตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา ซึ่งนอกจากการจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศออสเตรเลีย ผ่านร้านค้าชั้นนำอย่าง BUNNINGS warehouse ,Mitre 10 , IGA แล้วนั้น ในปัจจุบันยังมีการจำหน่ายทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และล่าสุด คือ ประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติอันโดดเด่นของแบรนด์จำนวน 2 รายการด้วยกัน คือ 1. Gilly's Orange Oil (กิลลี่ส์ ออเรนจ์ ออยล์) ขนาด 250 มล. ราคาพิเศษเพียง 629.- (ปกติ 699.-) สำหรับดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนประกอบหลักสกัดจากพืช 100% Food safe ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน มีกลิ่นหอม สำหรับดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์อในกรณีที่ไม่ต้องการความเงาสูง กิลลี่ส์ ออเรนจ์ ออยล์ มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดที่ดีเยี่ยม และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับฟื้นฟูความเงางามของเฟอร์นิเจอร์เก่า สามารถใช้กับเฟอร์นิเจอร์หวาย ไม้ไผ่ หรือ สำหรับพื้นผิวที่ไม่ได้ขัดเงา เช่น ภายในลิ้นชักและด้านใต้โต๊ะ ผลิตภัณฑ์อาจทำให้สีเนื้อไม้เข้มขึ้นในขณะที่ยังไม่แห้ง โดยสีส้มของผลิตภัณฑ์ไม่ทำให้วิสดุมีสีเปลี่ยนไป ใช้สำหรับ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้เก่า หวาย ไม้ไผ่ เฟอร์นิเจอร์โบราณ อุปกรณ์เครื่องครัว เขียง ของเล่นเด็ก ภายในลิ้นชักและใต้โต๊ะ รายละเอียดเพิ่มเติม www.naradee.com/Orange_Oil 2. Gilly's Liquid Beeswax (กิลลี่ส์ บีแว็กซ์) ขนาด 250 มล. ราคาพิเศษเพียง 629.- (ปกติ 699.-) กิลลี่ส์ บีแว็กซ์ ให้ความชุ่มชื้นกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ป้องกันผิวไม้จากความแห้งและเพิ่มความสวยงามของลายไม้ตามธรรมชาติ อุดมไปด้วยขี้ผึ้งบริสุทธิ์ สามารถใช้ได้กับพื้นผิวเคลือบแล้วหรือพื้นผิวที่ยังไม่เคลือบ และเหมาะสำหรับใช้กับเครื่องตัดเครื่องกลึงได้ เพียงใช้ผ้าหรือแปรงทาสี ทาผลิตภัณฑ์แล้วปล่อยให้แห้งประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วขัดด้วยผ้าที่ไม่มีขุยหรือถุงมือเป็นวงกลม ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอมและ เป็น Food safe เหมาะสำหรับไม้ที่พื้นผิวไม่เรียบในบริเวณกว้าง ใช้ได้ทั้งกับไม้เนื้ออ่อนและเนื้อแข็ง รายละเอียดเพิ่มเติม www.naradee.com/Liquid_Beeswax
เสริมเซฟตี้อุตสาหกรรมของคุณ ด้วย " LOTO "

มกราคม 07, 2022

เสริมเซฟตี้อุตสาหกรรมของคุณ ด้วย " LOTO "
เสริมเซฟตี้อุตสาหกรรมของคุณ ด้วย LOTO ของเรา #เซฟตี้ทุกเหตุไม่คาดฝัน เซฟตี้ทุกงานประจำวัน ด้วย “Lock-out/Tag-out” (LOTO) ตามมาตรฐาน OSHA ✔️ทนทาน ✔️แข็งแรง ✔️ได้มาตรฐาน ✔️สามารถระบุบตัวตนได้ กุญแจคล้องตระกูล Lockout “Master Lock 406” ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่องานด้านความปลอดภัยให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าในพื้นที่อันตราย - ตัวฐานผลิตจากวัสดุผสม Zenex™ - ห่วงกุญแจผลิตจากไนลอนผสม และหุ้มด้วยแผ่นฉนวนไฟฟ้า ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ (ศก. 6 มม.) - ทนต่อการกัดกร่อน สารเคมี ที่อุณหภูมิตั้งแต่ -57 °C ถึง +177 °C - ตัวฐานกุญแจคล้องมีความทนทานต่อแสง UV - การต้านทานกำลังดึงในตำแหน่งปิด: 114 กก. (252 ปอนด์) ตัวเลือกกุญแจคล้อง: - ลูกกุญแจเดี่ยว (KD) - ลูกกุญแจเหมือนกัน (KA) - ระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์ (MK) - สามารถสลักด้วยเลเซอร์ทั้งด้านข้าง และด้านหน้าของตัวฐาน เพื่อการระบุรายละเอียดได้ - รวมป้ายข้อมูลติดกุญแจคล้อง “Danger!!!(อันตราย)” และ “Property of (ทรัพย์สินของ)” ✅เรายังพร้อมให้คำแนะนำสำหรับกลุ่ม “อุปกรณ์ล็อคด้านความปลอดภัย (Safety Series)” เพื่อป้องกันความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น การซ่อมบำรุง หรือแก้ไขส่วนต่างๆ ของแหล่งจ่ายพลังงาน ✅ตอบโจทย์ทุกการดำเนินงานทั้ง อุปกรณ์ล็อควาล์ว,ล็อคปลั๊กไฟฟ้า, ล็อคระบบนิวแมติก, ล็อคเซอร์กิตเบรกเกอร์, ฝาครอบป้องกันปุ่มกด และสวิตซ์ ฯลฯ พร้อมอุปกรณ์ที่มีให้เลือกอย่างครบครัน ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทุกขนาด (โรงงาน โรงแรม คอนโดฯ) หากมีข้อสงสัย เรายินดีให้คำปรึกษา ---------------------------------------------------------------------- ✨ สอบถามรายละเอียด ✨ 1.ทาง inbox ข้อความเพจ คลิ๊ก FACEBOOK.MASTERLOCK.Thailand 2.Website naradee.com 3.ทางไลน์ Line ID : @naradee แอดไลน์คลิ๊ก
 ไขก๊อก... กุญแจล็อค

มกราคม 07, 2022

ไขก๊อก... กุญแจล็อค
ไขก๊อก... กุญแจล็อค “ระบบลูกปืนคู่” ดูฟูลออปชั่นกว่ายังไง?นับเป็นหนึ่งในตำนานระบบล็อคของกุญแจที่ยังคงสร้างมนต์เสน่ห์ได้อย่างไม่รู้จบ เพราะไม่ว่านวัตกรรมจะนำพาความก้าวไกลให้อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในกลุ่มนี้ สามารถวิวัฒนาการตัวเองให้ไปเชื่อมต่อกับมือถือ แล้วเลือกคำสั่งการ และพร้อมทำงาน หรือการปลดล็อคผ่านระบบบลูทูธกันได้แล้วก็ตามที แต่สิ่งหนึ่งอันเป็นเบื้องลึกที่ยังฝังอยู่ใน DNA เกือบทุกอณู ซึ่งถูกซ่อนไว้ด้วยฉากหน้าของคำว่า “กุญแจล็อคความปลอดภัยสูง” หรือ High Security Level Padlock อย่างที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้สังเกตุมาก่อนนั้น... ซึ่งก็คือ กลไกการล็อคใน “ระบบลูกปืนคู่” หรือศัพท์ในเชิงเทคนิคที่เรียกกันว่า “Dual-Ball Bearing Locking” นั่นเอง ซึ่งก็คือ กลไกการล็อคใน “ระบบลูกปืนคู่” หรือศัพท์ในเชิงเทคนิคที่เรียกกันว่า “Dual-Ball Bearing Locking” นั่นเอง เมื่อความสัมพันธ์กันของกระบอกกุญแจ, ตัวสลักหมุน 180 องศา และการเคลื่อนที่ของลูกปืนเข้าสู่ตำแหน่งล็อคระหว่างห่วงกุญแจทั้งสองข้างนั้น ถูกทดสอบแล้วว่า มีความปลอดภัยสูงกว่ากุญแจล็อคในระบบของสปริงอยู่หลายจุดเลยทีเดียว ทั้งในแง่ของความทนทาน และในเชิงของการป้องกันการสะเดาะกุญแจ เช่น • จากการถูกเขี่ยที่รูกุญแจ • การสอดลวดเข้าไปในรูของห่วงกุญแจทั้งสองข้าง เพื่อทำการกดสลักที่เป็นสปริงให้คลายล็อคออก • รวมทั้งลักษณะการทำงานแบบ Deadbolt หรือการล็อคตายของคอกุญแจ แม้ว่าจะถูกตัดที่ห่วงกุญแจ แต่ก็ต้องตัดจนให้มีพื้นที่มากพอที่จะเอากุญแจออกจากหูช้าง หรือบานพับนั่นเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมตั้งแต่ในช่วงปี 1900 ซึ่งเป็นยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมทั้งทางฝั่งอเมริกา และโลกตะวันตกนั้น มักนิยมใช้กุญแจในระบบล็อคประเภทนี้เกือบทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับทางกองทัพ สถานที่ราชการ หรือแม้กระทั่งกับในเรือนจำก็ตาม ปัจจุบัน จึงยังมีการพัฒนาและเสริมความสมบูรณ์แบบกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลบจุดอ่อน โดยการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชิ้นส่วนของห่วงกุญแจ ด้วยการใช้โลหะธาตุจาก “โบรอนคาร์ไบด์” ที่มีคุณสมบัติด้านการต้านทานแรงตัดได้สูงกว่าเหล็กกล้าถึงหลายเท่า หรือการเสริมประสิทธิภาพที่ตัวกุญแจด้วยโลหะจากธาตุซิงค์ในระดับนาโน เพื่อเติมเต็มด้านความทนทานต่อการกัดกร่อนให้พร้อมเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง (จึงมักถูกนำไปใช้ในงาน outdoor เช่น ประตูโรงงาน,โกดัง,ห้องเก็บของ ฯลฯ ) และจุดหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดอยู่ นั่นคือ รูปแบบในการล็อค หรือวิธีการใช้งาน ซึ่งแม้ว่าโดยส่วนใหญ่เราอาจจะพบเจอ หรือคุ้นชินกับการใช้งานในลักษณะ “เปิดแล้วต้องปิดก่อน” (Key retaining lock) ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้ใช้ไม่ลืมไขกุญแจทิ้งไว้ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากว่ากันในเชิงทางเทคนิค ก็อาจเป็นเพียงแค่ลักษณะของฟังก์ชันเล็กๆ ส่วนหนึ่งจากทางผู้ผลิตที่มิได้มีผลในด้านอื่นๆ แต่อย่างใดนัก เพราะสุดท้ายแล้ว ก็มักจะขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งานเป็นสำคัญนั่นเอง ดูรายละเอียดกุญแจระบบลูกปืน High Security Padlock และกุญแจคล้องของ Master Lock ทุกรุ่นได้ที่ MASTERLOCK Ref http://rageuniversity.org/PRISONESCAPE/PRISON%20LOCKS%20AND%20KEYS/Lock-Mechanisms.pdf https://en.wikipedia.org/wiki/Padlock https://unitedlocksmith.net/blog/the-history-of-padlocks http://www.lockwiki.com/index.php/Key_retaining
Tips : แอบเกาะ!! ในเครื่องชงกาแฟ

มกราคม 07, 2022

Tips : แอบเกาะ!! ในเครื่องชงกาแฟ
Tips : แอบเกาะ!! ในเครื่องชงกาแฟ แคลเซียม และแมกนิเซียมในน้ำ จะจับตัวกันเป็นคราบหินปูน เกาะอยู่ตามผิวท่อน้ำด้านใน ยิ่งเป็นน้ำร้อนยิ่งก่อตัวง่าย มากๆเข้า ก็ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องถดถอย พร้อมๆกับกลิ่นรสกาแฟถ้วยโปรดก็ด้อยลงด้วย เครื่องชงสวยหรูแต่ภายในถูกแอบเกาะ แน่นอน..คุณมองไม่เห็น กันไว้ก่อนดีมั้ย? งั้นกำจัดเลย กันไว้ก่อนดีมั้ย? ดี!!! ถ้าทำได้ แต่ในความเป็นจริง หินปูนมันอยู่ในน้ำ จะไปห้ามมันยังไง งั้นกำจัดเลย เคล็ดลับที่บอกกล่าวกันส่วนใหญ่คือใช้น้ำส้มสายชู แต่อยากบอกว่ามันมีข้อเสียคือ •มีผลเสียต่อผิวท่อ สุดท้ายอาจเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม •กำจัดหินปูนได้บางส่วนเท่านั้น •ล้างกันยกใหญ่ก็อาจมีกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มค้างอยู่ ง่ายกว่าและให้ผลที่คุณพอใจ แนะนำ HG ดีสเกลเลอร์ ฟอร์ เอสเพรสโซ่ แอนด์ พ็อด-คอฟฟี่ แมชชีนส์ สูตรกรดแลคติก ช่วยขจัดคราบหินปูน ไม่มีผลเสียต่อระบบภายในเครื่อง ไม่เปลืองค่าซ่อมในภายหลังทั้งยังยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพของเครื่อง ที่สำคัญ....ช่วยคงรสชาติของกาแฟถ้วยโปรด สำหรับหม้อต้มกาแฟทั่วไป ให้ใช้ เอชจี ดีสเกลเลอร์
แค่เขาบอกว่าเซฟ “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!..คุณก็เชื่อแล้วยังงั้นเหรอ?

มกราคม 07, 2022

แค่เขาบอกว่าเซฟ “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!..คุณก็เชื่อแล้วยังงั้นเหรอ?
แค่เขาบอกว่าเซฟ “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!..คุณก็เชื่อแล้วยังงั้นเหรอ? ถ้าต้องการแค่ตู้เหล็กสี่เหลี่ยมฉาบปูน ใครๆก็ตอบคุณได้ว่ามันกันไฟได้นานแค่ไหนแต่เบื้องหลังของตัวเลขเหล่านั้น คุณไม่อยากรู้หรอกหรือ ว่ามีอะไรซ่อนอยู่? แท้จริงแล้วมาตรฐานเซฟ แม้แต่เรื่องกันไฟ ก็ยังไม่เหมือนกัน!!! แล้วส่วนใหญ่ก็เข้าใจผิดคิดกันไปเอง ว่าต้องเป็นการทดสอบกับทองหรือเพชรแน่นอน... ไม่ใช่แต่อย่างใด! เพราะจริงๆ มันคือ กระดาษ ใช่แล้ว... มาตรฐานการทดสอบตู้เซฟชั้นนำของอเมริกาอย่างสถาบัน UL (Underwriters Laboratories) ได้ระบุไว้ว่า ตู้เซฟที่ผ่านการรับรอง “แม้แต่เอกสารต่างๆ..ก็ต้องไม่ได้รับความเสียหาย” เพราะกระดาษหรือเอกสารถูกทำลายได้ที่ 232 °C (ทอง 1,064 °C, เพชร 1,878°C) โดยการทดสอบของ UL นั้น.. จะกำหนด Level ของอุณหภูมิกับเวลาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดจำลองเหตุเพลิงไหม้และในภาพคือกราฟของ SentrySafe ที่ผ่านรับรองแล้วว่า สามารถกันไฟได้สูงสุดที่ 1,010 °C เป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยที่เอกสารภายในไม่ได้รับความเสียหายใดๆ*!!! *หลังให้ความร้อน 2 ชั่วโมงยังมีการเฝ้าสังเกตุอีก 68 ชั่วโมง เพราะตู้เซฟยังมีการดูดซับความร้อน และอุณหภูมิยังคงสูงขึ้นอีก (มีเซฟบางแห่งไม่ผ่านการทดสอบในช่วงนี้) ตัวอย่างเซฟกันไฟของSentry Safe (คลิก)
HG มีสื่อรักเคลียร์ใจ… ให้เจ้าคุณทาส และเจ้านายเหมียว ได้เกี่ยวก้อยรักกันตราบนิจนิรันดร์

พฤศจิกายน 24, 2021

HG มีสื่อรักเคลียร์ใจ… ให้เจ้าคุณทาส และเจ้านายเหมียว ได้เกี่ยวก้อยรักกันตราบนิจนิรันดร์
HG มีสื่อรักเคลียร์ใจ…  ให้ "เจ้าคุณทาส และ เจ้านายเหมียว” ได้เกี่ยวก้อยรักกัน… ตราบชั่วนิจนิรันดร อย่าให้ความรักอันแสนหวาน ซาบซ่า กุ๊งงง กิ๊งงง จำต้องเลือนหายไปกับสิ่งที่เขาเรียกกันว่า  “กลิ่น ฉี่ บังตา” เชียวนะ . ใช่แล้ว… อ่านไม่ผิดหรอกจ่ะ  . เพราะถึงแม้นว่า เจ้านายเหมียวที่เหล่าทาสทั้งหลายนั้นต่างจะรัก และเทิดทูน หวงแหน (หรืออาจจะเป็นดั่งตัวแทนได้เข้ารับส่วนแบ่งจากกองมรดก และกิจการทั้งปวง) ซึ่งต่างได้รับทั้งความเอ็นดู และอยู่ในสายตาอย่างหลากคุณูประการก็จริงอยู่  . แต่กลับอาจจะยังดูมิใช่อนิจจังเสียทั้งหมด  . เมื่อโลกนี้ต่างยังให้ทั้งคู่ได้ต้องพาลพบ และผ่านประสบกับการพิสูจน์รักแท้ แม้จะดูเหมือนกับว่า ส่วนมากมักจะถูกขีดเขียนอยู่บนบทละครที่ว่าด้วยเรื่องของ “กลิ่นฉี่เจ้ากรรม… ทำทาสนั้นไม้เรียวสั่น”   . ซึ่งหากไม่นับจังหวะที่ทาสนั้นอาจจะยังเบลอๆ แล้วดันเผลอไปเจอกับกองเศษซากของทิชชู่ม้วนใหม่ ณ ใต้โต๊ะเก้าอี้ หรือแอบเห็นว่ามีร่องรอยการตะกุยโซฟา (ก็คิดซะว่าน้องช่วยแต่งเติมลวดลายให้ก็แล้วกันนะ)  . ก็อาจจะพูดได้ว่า “การจัดการเรื่องกลิ่นฉี่เหม็น” นั้น นับเป็นเพียงแค่เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ทำให้ทั้งคู่ต่างต้องเข้าประจัญหน้า และเตรียมฟาดฟันกันอย่างออกรสออกชาติได้อย่างถึงที่สุด เพราะไม่ว่าจะหยุดอยู่ที่การอุทรณ์กันด้วยวาจา หรือสถานการณ์นำพาให้หนักเข้าขั้น นั่นอาจหมายถึง การต้องเข้าต่อสู้ฟาดฟันกันบนสมรภูมิใดซักแห่งหนบนบ้านเรือน เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งระหว่างเจ้านายเหมียวผู้มาพร้อมด้วยกรงเล็บพิฆาต หรือสุดท้ายแล้ว จะเป็นเจ้าคุณทาสผู้มีเพียงไม้เรียวในมือ (แต่ก็มักดูบิดผิดรูปไปบ้างจากการใช้งานหนักก็ตาม) . ได้เวลาแล้วรึยัง?… ที่จะหยุดความระหองระแหงเหล่านี้ มิให้วนเวียนอยู่กับเพียงแค่ปัญหาเดิมๆ อย่างเรื่อง “กลิ่นฉี่เหม็น” ทั้งที่เป็นการฉี่แบบไม่เป็นที่ หรือ กลิ่นคาวอึ กลิ่นคาวฉี่ ที่สะสมอยู่ในกระบะทราย . โดยมีอย่างหนึ่งเหนือสิ่งอื่นใดที่ทาสต้องรู้ไว้ และก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะ เพราะ “กลิ่นฉี่ของน้องแมว” นั้น ถูกจัดได้ว่า เป็นเจ้าแห่งฉี่ที่ส่งกลิ่นเหม็นที่สุด นับตั้งแต่มีการเทียบเคียงกับบรรดาเหล่าสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ หรือแม้แต่กับมนุษย์โลกเลยทีเดียว . ทาสจะภาคภูมิใจมั้ยน้าาา .   โดยอารัมภบททั้งหมดนี้… ก็มีเจ้า “แอมโมเนีย” (Ammonia) นี่แหละ… ที่เป็นละครสำคัญ!!!! . กลิ่นฉี่ของน้องแมวอันเหม็นคุ้งนั้น นับเป็นผลพวงหลักๆ ของสารที่มีชื่อทางการว่า “แอมโมเนีย” (สารชนิดเดียวกับที่พบในกองขยะ และปัสสาวะของมนุษย์) โดยส่วนใหญ่แล้ว มักถูกสร้างขึ้นจากแบคทีเรียโดยรอบ เข้าไปทำปฏิกิริยากับ กรดยูเรีย (Urea) ในปัสสาวะนั่นเอง  . และกลิ่นเหม็นอาจเพิ่มขึ้นได้เป็นเท่าทวี หากน้องแมวนั้นออกไปเที่ยวเล่น หรือไปเกลือกกลิ้งตามแหล่งสะสมของแบคทีเรียในกลุ่มนี้กลับมา ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งทางขน หรือส่วนใดส่วนหนึ่งทางผิวหนัง โดยเจ้าแบคทีเรียเหล่านี้ สามารถผลิตเอนไซม์ที่ชื่อว่า ยูรีเอส (Urease) ซึ่งย่อยสลายทั้งฉี่ หรืออึของน้องที่สะสมอยู่เป็นเวลานานๆ ให้กลายไปเป็นได้ทั้งสารประกอบแอมโมเนีย และกรดคาร์บอนิค โดยส่งผลให้เราจึงยิ่งรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวที่ยังคงติดค้าง ถึงแม้ว่าจะมีการล้างทำความสะอาดแบบทั่วๆ ไปแล้วก็ตาม หรือกลิ่นอีกประเภทหนึ่งที่ชื่อ “กลิ่นแคทตี้” (Catty Odour) . โดยส่วนใหญ่ในต่างประเทศนั้น มักจะคุ้นหูกับคำนี้กันเป็นอย่างดี เพราะนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆ ในเรื่อง กลิ่นเหม็นฉี่ของน้องแมว แต่ถูกเฉพาะเจาะจงลงลึกไปที่ปัญหากลิ่นที่เกิดขึ้นในกระบะทรายของน้องนั่นเอง . ซึ่งกลิ่นดังกล่าว เป็นปฏิกิริยาที่มาจากการย่อยสลายของสารที่มีชื่อว่า “เฟลินิน” (Felinine) (สารดังกล่าวนับเป็นหนึ่งใน ฟีโรโมน ของเจ้าเหมียวด้วยนะ จึงทำให้เวลาหาคู่ หรือตามหาความรัก เราจึงมักเห็นน้องเขาดมๆ ที่ก้นกันและกัน)  . โดยสารในกลุ่มนี้ จะถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงวัยตั้งแต่ 3 เดือน จนกระทั่งถึงช่วงก่อนโตเต็มวัย โดยเฉพาะกับน้องแมวตัวผู้ ซึ่งหากเราลองสังเกตุดีๆ ก็จะพบทราบว่า กลิ่นฉี่เหม็นในช่วงระยะนี้ มักจะส่งกลิ่นแรงมากๆ นั่นเอง เพราะถึงแม้ว่า สารเฟลินิน จะไม่มีกลิ่นก็จริง แต่เมื่อทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสภาพแวดล้อมแล้วนั้น ก็จะทำให้เกิดสารประกอบกลุ่ม กำมะถัน (Sulfur) หรือ ส่วนประกอบของแก็สไข่เน่า นั่นเอง . ซึ่งโดยทั่วไป นอกจากทำให้เกิดกลิ่นที่เหม็นมากๆ แล้ว ยังมักจะทำให้เกิดกลิ่นติดค้างสะสมอยู่ที่กระบะทราย หรือบางทีก็อาจจะมีกลิ่นติดไปกับตัวน้องได้ .   ฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดกลิ่นฉี่ของเจ้าเหมียวนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลักจากจุลินทรีย์ธรรมชาติ เพื่อเป็นการยับยั้งปฏิกิริยาการย่อยสลายของสารยูเรีย ซึ่งนับเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้เกิดสารประกอบแอมโมเนีย และกลิ่นเหม็นในที่สุด โดยข้อดีนอกจากการไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อน้องแมวแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการก่อตัวของกลิ่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  . ทั้งนี้ ย่อมดีกว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่มีเพียงส่วนช่วยในการกำจัดกลิ่น หรือปกปิดกลิ่นด้วยน้ำหอมแบบทั่วๆ ไป เพราะนอกจากไม่ได้ช่วยให้เป็นการทำความสะอาดอย่างถูกสุขอนามัยแล้ว หากยังมีการใช้ต่อไปในระยะยาว ย่อมอาจส่งผลต่อสุขภาพของเจ้านายเหมียวที่เหล่าทาสต่างเทิดทูนก็เป็นได้ . HG มีสื่อรักเคลียร์ใจ …  “เจ้าคุณทาส” ได้ใช้แล้ว “เจ้าคุณเหมียว” ก็คงต้องร้องบอกว่า ใช่เลยยย!!! Ref. pubs.acs.org hd.co.th
ศาสตร์ของ “คน รักษ์ พื้น บ้าน”

พฤศจิกายน 24, 2021

ศาสตร์ของ “คน รักษ์ พื้น บ้าน”
เพราะจุดตัดระหว่าง “การดูแลวัสดุปูพื้นบ้าน” กับความเข้าใจใน “ศิลปะแห่งการขจัดคราบ” อาจเปรียบได้ดั่งพื้นฐานให้กับนิยามของ คนรักบ้าน อย่างแท้จริงอยู่เสมอ แต่คงน่าเสียดายไม่น้อย… หากในตอนสุดท้ายของกลุ่มคนโดยทั่วไป กลับยังใส่ใจเพียงแค่การนั่งนับวันพลันตั้งตารอต่อการมาถึงในช่วงเวลาของการรีโนเวท มากกว่าที่จะเห็นเป็นประเภทของ “Cleaning, Protecting & Beautifying” อันเป็น The King of Concept จาก HG เพื่อการดูแลบ้านแบบ D.I.Y ได้อย่างครบวงจรมากที่สุด!!! โดยเฉพาะในเรื่องของวัสดุปูพื้นบ้านทุกชนิด!!! ย้ำว่าทุกชนิด!!! และเพราะองค์ประกอบในตัวโครงสร้างของวัสดุที่แตกต่างกันนี้เอง จึงทำให้วิธีการดูแลพื้นผิว และการจัดการกับปัญหาของการเกิดคราบนั้น จึงต้องการความเข้าใจในแบบฉบับของ “คนรักษ์พื้นบ้าน” ในชนิดที่อาจเรียกได้ว่า “ให้มันได้รู้ลึกลงไปถึงในระดับของรูพรุนสักครั้ง… ก็น่าจะดี” #เข้าใจให้ลงลึกถึงในระดับของรูพรุน เมื่ออีกนัยหนึ่งในเรื่อง “ขนาดของรูพรุน” หรือ Porous นั้น สามารถเปรียบได้ดั่งดัชนีชี้วัดถึงความสามารถต่อการดูดซับ และอัตราการไหลของของเหลว (บางคนอาจลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป แต่อย่างไรก็ดี เรื่องนี้กลับมีผลกับเรื่องคราบเป็นอย่างมากนะ) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ หรือพื้นหินธรรมชาติใดๆ ก็ตามที หากยิ่งพบเจอกับการทำความสะอาดที่ไม่ดี และมีสิ่งสกปรกต่างๆ ถูกปล่อยปะละทิ้งเอาไว้อยู่นานวัน หรือแม้กระทั่งอันมีมูลเหตุจากการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีในบางกรณีร่วมด้วยแล้ว  เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ย่อมเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนกัน และยิ่งส่งผลต่อการเกิดคราบสกปรกสะสมฝังแน่น รวมทั้งมักจะเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การเป็นคราบด่าง สีไม่สม่ำเสมอ หรือสังเกตุเห็นได้ถึงความขุ่นหมองกันได้แบบถาวรนั่นเอง #ชั้นหน้าผิวถูกทำลายอะไรๆก็ดูแย่ ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้พื้นที่นั้นๆ เพื่อการสัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ หรือการทำความสะอาดอย่างไม่ถูกวิธี เช่น การเคยลองขจัดคราบหนัก ด้วยการใช้สารที่มีฤทธิ์เป็นกรดค่อนข้างสูง แล้วภาวนาให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นหายไป แต่ทันใดนั้น สารเจ้ากรรมอาจช่วยให้คราบหนักเหล่านั้นหายไปได้ก็จริง แต่กลับกลายเป็นการทิ้งความเสียหายไว้ให้กับชั้นเคลือบผิวที่มักจะมีการหลุดหล่อนออกไปด้วยเช่นกัน  ซึ่งยิ่งส่งผลให้ภาพรวมนั้นแลดูแย่ลงอย่างเป็นทวี เพราะเมื่อพื้นที่ ณ จุดนั้นๆ มีการเสียสภาพของโครงสร้างจากการขัดถู หรือการกัดกร่อนอย่างรุนแรงและบ่อยครั้ง ผลสุดท้ายจึงมักแสดงออกมาให้เราเห็นได้ในรูปของการเกิดรอยแตกร้าว, เกิดคราบสกปรกสะสมได้ง่ายขึ้น หรือสังเกตุเห็นความเข้มของสีพื้นผิวที่เริ่มจะดูไม่สม่ำเสมอ เพียงเพราะก่อนหน้านี้เผลอไปเชื่อกูรูผู้รู้อยู่แต่นอกตำราก็เป็นได้ #เสียเวลาน้อยกว่าถ้ารู้จักคราบนั้นมากกว่าใคร เพราะการรู้จักคราบ และสาเหตุต่างๆ ที่มากพอ ก็จะช่วยให้คุณเสียเวลาไปกับเรื่องเหล่านี้ได้น้อยลงเป็นอย่างมาก เพราะคราบที่เราเห็นๆ กันนั้น ในบางกรณีก็อาจจะยาก หรืออาจต้องใช้ขั้นตอนที่พิเศษสุดๆ เพื่อการขจัดคราบเหล่านั้นให้ออกไปได้นั่นเอง ซึ่งคราบโดยทั่วไปบนโลกนั้น สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. คราบอินทรีย์ หรือ Organic stains หมายถึง คราบที่มักเกิดขึ้นจากกระบวนการของจุลินทรีย์ต่างๆ ทั้งที่มาจากอาหาร เครื่องดื่ม พืชพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งกลุ่มของสารที่มีสีย้อมด้วยในบางกรณี อาทิเช่น คราบจากไวน์ คราบจากเชื้อรา คราบจากน้ำมัน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่ของคราบในกลุ่มนี้ หากได้รับการทำความสะอาดอย่างทันถ่วงที ก็จะสามารถช่วยลดการเกิดคราบสะสมได้เป็นอย่างมาก  เพราะเคยมีการทดสอบเรื่อง อัตราการดูดซับ และผลจากอัตราการไหลของของเหลว ด้วยการหยดน้ำมันทิ้งไว้บนพื้นหินอ่อน และพื้นคอนกรีต แล้วทำการทิ้งไว้เป็นเวลาหลายวัน พบว่า เมื่อลองพลิกดูอีกด้านของวัสดุ จะสามารถสังเกตุเห็นถึงคราบรอยเปื้อนนั้น กำลังมีการขยายตัว และเริ่มขยายเป็นวงกว้าง รวมทั้งซึมลึกลงในระดับของชั้นใต้พื้นผิวกันเลยทีเดียว (ซึ่งเป็นจุดสังเกตุที่ดีให้กับพื้นที่ในการทำอาหารอย่างห้องครัว และห้องรับแขก ในเรื่องของคราบน้ำมัน น้ำอัดลม หรือคราบซอสนั่นเอง) 2. คราบอนินทรีย์ หรือ Inorganic stains โดยคราบส่วนมากในกลุ่มนี้ มักจะเกี่ยวข้องกับการทำปฏิกิริยา หรือการออกซิไดซ์กันของน้ำ ออกซิเจน และแร่ธาตุโลหะตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ธาตุเหล็ก (Iron) ซึ่งอยู่ภายในโครงสร้างของตัววัสดุอย่างพื้นหินธรรมชาติ หรือพื้นกระเบื้องบางชนิด โดยสาเหตุดังกล่าว มักจะปรากฏออกมาในรูปของ คราบสนิมสีน้ำตาลหรือแดง ซึ่งหากได้รับการขจัดคราบด้วยน้ำยาที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจยิ่งทำให้คราบใหม่เกิดขึ้นลึกเข้าไปในชั้นวัสดุได้ จนบางครั้งอาจยากต่อการขจัดคราบได้แบบทั่วๆ ไป หรือในบางกรณีก็จำต้องเปลี่ยนในจุดนั้นกันไปเลย ฉะนั้น “การทำความสะอาดแบบในทันที” จึงเป็นคำตอบของการป้องกันสาเหตุจากการเกิดคราบต่างๆ ได้ดีที่สุด แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะไม่ค่อยรับรู้ในช่วงเริ่มต้นของการสะสมของคราบนั่นเอง ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากการ... * หลุดร่อนของชั้นเคลือบผิวที่เกิดจากการสัญจรอยู่เป็นประจำ * การทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี * หรือไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ทั้งหมดนี้ จึงมักเป็นสาเหตุเบื้องต้นให้คราบสกปรกต่างๆ เข้าไปสะสมฝังแน่นอยู่ตามรูพรุนได้เป็นจำนวนมาก ทั้งคราบด่างดำ, สีไม่สม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งอาการช้ำน้ำ (ผลพวงจากอัตราการสะสมของคราบสกปรกเหล่านั้น ทำให้โมเลกุลของน้ำไม่สามารถระเหยออกมาได้ตามปกติ) และซ้ำร้ายเมื่อปล่อยไว้นานวัน อาจเป็นสาเหตุต่อการเสื่อมสภาพของโครงสร้างก่อนอายุขัยได้ในที่สุด จึงทำให้ในทางฝั่งยุโรป และทาง HG Thailand จึงแนะนำให้คุณเจ้าของบ้านทำการปกป้อง และดูแลวัสดุอย่างพื้นบ้านให้ยังคงความสวยงาม และมีความยั่งยืน ด้วยการเลือกใช้ * “ผลิตภัณฑ์เคลือบกันซึม” เป็นอันดับแรกก่อนเสมอ เพื่อเป็นการช่วยลดอัตราการสะสมของคราบหนักฝังแน่น และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นวัสดุได้ในระยะยาว * “ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นสูตรเฉพาะสำหรับพื้นผิวนั้นๆ” เพราะองค์ประกอบของพื้นแต่ละชนิด ต้องการการดูแลในแบบที่ถูกต้อง และไม่ทำลายวัสดุโดยเฉพาะชั้นเคลือบผิว ซึ่งจะช่วยคงความสวยงามของพื้นผิว และอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานที่สุด ref cleanfax.com sanding.co.uk slique.com.au expressflooring.com
ต่อให้ถูบ้านเป็นล้านครั้ง... แต่พื้นเหล่านั้น ก็ยังดูไม่สะอาด!!!

พฤศจิกายน 24, 2021

ต่อให้ถูบ้านเป็นล้านครั้ง... แต่พื้นเหล่านั้น ก็ยังดูไม่สะอาด!!!
- ต่อให้ถูบ้านเป็นล้านครั้ง... แต่พื้นเหล่านั้น ก็ยังดูไม่สะอาด!!! - ประโยคอันชวนสงสัยให้ใครต่อใครทั้งหลายทั้งปวง ได้ลองกลับมาทบทวนถึงเรื่องราวของที่สุดจุดใต้ตำตอ - แต่คุณจะร้อง “อ๋อ..” ทันทีที่พบว่า หนึ่งในกิจวัตรที่ส่งผลต่อความเฉิดฉายให้สถานวิมานอย่าง “การทำความสะอาดพื้นบ้าน” นั้น ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่เพียงในวงโคจรของการ กวาดบ้านถูบ้าน เท่านั้น แม้ ณ วินาทีนี้ คุณอาจจะพรั่งพร้อมไปด้วยถังปั่นน้ำคุณภาพระดับจักรวาลแล้วก็ตามที “ความไม่สบายเท้า*” ในหลายครั้งมักเกิดขึ้นจากโสตสัมผัสที่ไปสะกิดต่อมกวนใจให้กับเหล่าแม่บ้าน ทั้งๆ ที่เพิ่งอุทิศเวลาในเมื่อสักครู่ ไปกับการมุมานะทั้งการกวาดและการถูอย่างตรากตรำ จนทำให้บางครั้งต้องนำไปสู่การตัดใจ ใส่เอี๊ยม และเตรียมเปิดห้องเก็บของหรือเข้าห้องครัว เพื่อเตรียมอุปกรณ์คู่ใจแล้ววนกลับไปกวาดซ้ำถูซ้ำเป็นอีกคำรบ (*มักเห็นเป็นคราบดำคราบฝุ่น เมื่อลองทดสอบด้วยการเอาทิชชู่หรือผ้าซับหมาดๆ กรีดลงบนพื้นที่แห้งหลังจากการกวาดถูพื้นใหม่ๆ) แต่ถ้าหากเราพบว่า “ความไม่สบายเท้า” ข้างต้นนั้น... อาจซ่อนอยู่ในห้วงแห่งความรู้สึก ผ่านทุกอณูทุกรูพรุนของพื้นวัสดุแล้วล่ะก็... มันอาจจะดีกว่านี้ก็เป็นได้นะ > เก็บกวาดดีมีชัยไปกว่าครึ่งนะ แม้ว่าตามอาคารบ้านเรือนของเราๆ นั้น จะไม่สามารถทำการเลือก 1 ใน 4 โปรแกรมหลักๆ ของบริษัททำความสะอาดพื้นได้ก็ตาม เพราะขั้นตอนที่พร้อมปฏิบัติงานด้วยเครื่องปั่นพลังสูงแบบที่เราเห็นๆ กันตามโรงพยาบาล หรือโรงแรมเหล่านั้น นอกจากจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการขัดหน้าผิวพื้นแล้ว ด้วยลักษณะของแรงดันในระดับสูงนี้เอง ยังสามารถช่วยดันเศษฝุ่นผง หรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เกาะติดฝังแน่น (โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการสัญจรมากๆ) ให้หลุดออกมาจากรูพรุนของพื้นวัสดุได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่การใช้เครื่องดูดฝุ่นด้วยระดับความถี่ที่คนในครอบครัว และเพื่อนข้างบ้านไม่รู้สึกรำคาญจนเกินไป ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการปัดกวาดแบบทั่วไปด้วยไม้กวาด เพราะด้วยจำนวนดอกหญ้าที่ร่วงโรยราดั่งมีวันหมดอายุนี้เอง ยังมีโอกาสต่อการหลงเหลือของฝุ่นละออง และอาจเกิดการฝังแน่นลงตามรูพรุนของพื้นวัสดุได้มากขึ้น ซึ่งหากมีการถูพื้นหลังการกวาดในตอนนั้น จึงยิ่งเป็นการดันให้สิ่งสกปรกให้ยิ่งฝัง “แน๊น แน่นนน” กว่าเดิมได้อีกด้วยนะ > ถูยังไงให้โลกจำนะ โลกจะจำทันที เมื่อวันนี้คุณสามารถถูบ้านได้เพียงรอบเดียว โดยใช้เพียงการสังเกต “สีของน้ำในถังปั่น” (ร่วมกับความไม่เกียจคร้านในการเปลี่ยนน้ำเด็ดขาด!) เพราะการถูซ้ำๆ ด้วยน้ำแค่ถังเดียวแบบนั้น หากเป็นพื้นที่ในบริเวณกว้างๆ ก็อาจเป็นเพียงการน้ำฝุ่นที่ดักจับมาชุบลงในถัง แล้วก็เปลี่ยนที่ให้ความสกปรกเหล่านั้น กลับไปสะสม ณ อีกพื้นที่หนึ่งเพียงเท่านั้นเอง ซึ่งหากทำให้โลกจำได้เช่นนั้น จึงอาจเป็นการประหยัดแรง และน้ำยาถูพื้นได้มากกว่าการต้องถูซ้ำเป็นรอบที่สองได้อีกด้วยนะ > ไฮไลต์ของน้ำยาถูพื้นคืออะไรบ้างนะ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นคุณภาพสูงนั้น นอกจากความสามารถในการขจัดฝุ่นได้อย่างล้ำลึก พร้อมให้กลิ่นที่สดชื่นหลังการถูแล้ว ยังต้องสามารถทำปฏิกิริยากับชั้น Top-layer ได้เป็นอย่างดี เพื่อคืนความสดใสให้กับพื้นวัสดุนั้นๆ ได้อีกด้วยนะ > สบู่หนึ่งก้อนเค้าไม่ฟอกทั้งตัวแล้วนะ เช่นเดียวกันกับการดีไซน์สัดส่วนของบ้านเรือนสมัยนี้ ที่มีหน้าตาของพื้นบ้านแยกตามฟังก์ชันการใช้งานไม่ต่ำกว่าสองชนิด โดยลักษณะเฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นบ้านที่เกิดจากการรังสรรค์ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันนั้น เช่น - พื้นกระเบื้องดินเผาสุดคลาสสิคในโรงรถ - พื้นแกรนิโต้เคลือบเงาสุดหรูบริเวณชั้นล่าง - หรือพื้นบ้านไม้แท้อันสะท้อนรสนิยมบนชั้นสอง จึงควรค่าแก่การดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่พัฒนาขึ้นมาให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวนั้นๆ โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับทุกคุณสมบัติและโครงสร้างของวัสดุที่ต่างชนิดกันแบบนั้นด้วยนะ
HG การันตีผลิตภัณฑ์จากสถาบันทดสอบชั้นนำอย่าง TÜV Saarland*

พฤศจิกายน 24, 2021

HG การันตีผลิตภัณฑ์จากสถาบันทดสอบชั้นนำอย่าง TÜV Saarland*
HG “does what it promises” พร้อมพิชิตทุกคราบตามคำมั่นสัญญา… ด้วยการสร้างคุณค่า และเป็นได้มากกว่า “ผลิตภัณฑ์การทำความสะอาด” ตอกย้ำให้ทุกท่านได้มั่นใจ ด้วยการเป็นหนึ่งในองค์กรเพียงไม่กี่แห่งบนโลก!!! ที่ได้รับการการันตีผลิตภัณฑ์จากสถาบันทดสอบชั้นนำอย่าง TÜV Saarland* ในช่วงเวลาเดียวกันร่วมกว่า 14 รายการสินค้า โดยเฉพาะไฮไลต์ทางด้านฟังก์ชันการใช้งาน และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่สูงกว่าทั่วไป ซึ่งผ่านการประเมินจากผู้ใช้งาน ทั้งในด้านมาตรฐานข้อกำหนด คุณสมบัติ รวมทั้งผลลัพธ์ในการขจัดคราบต่างๆ ที่เป็นไปตามการระบุไว้บนฉลากอย่างแท้จริง *TÜV ภายใต้สโลแกน 'TÜV geprüft' ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหลายประเทศของทางฝั่งยุโรป โดยเป็นสถาบันทดสอบอิสระที่มีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือในระดับสูงของประเทศเยอรมัน ซึ่งดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัย และคุณภาพ พร้อมทั้งให้การรับรองว่า ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้เป็นไปตามมาตรฐานของข้อกำหนดทางด้านกฎหมาย รวมทั้งมีความปลอดภัย และเป็นไปตามความต้องการผู้บริโภค ติดตามผลิตภัณฑ์ของ HG ที่ผ่านการรับรองโดย TÜV Saarland ทุกรายการได้ที่ shopee mall
ดีไซน์ “แถบป้องกัน”... ดับฝัน “โจรงัดเซฟ!!!”

ตุลาคม 20, 2021

ดีไซน์ “แถบป้องกัน”... ดับฝัน “โจรงัดเซฟ!!!”
ดีไซน์ “แถบป้องกัน”... ดับฝัน “โจรงัดเซฟ!!!” "การโดนตัดบานพับ... แล้วถูกงัดด้วยชะแลง" อาจเป็นเรื่องของเซฟแบบทั่วๆไป... แต่มิใช่กับ "ตู้เซฟกันไฟของ SentrySafe" เมื่อฟีเจอร์ไฮไลต์อย่าง “Pry-resistance hinge bar” กับกลายเป็น 1 ในคุณสมบัติเด่นในซีรี่ย์ดังกล่าว และเป็นที่ยอมรับกันเป็นอย่างมากกันในฝั่งอเมริกา และยุโรป เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานไปพร้อมๆ กัน ได้ถึง 2 จุด คือ 1. ทำหน้าที่เป็นตัวล็อคให้กับเซฟอีกชั้นหนึ่ง... แม้ตัวบานพับด้านนอกจะถูกตัดทำลายออกแล้วก็ตาม โดยจุดดังกล่าว ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแถบซี่สลับฟันปลา และวางเรียงต่อกันตลอดแนวระหว่างพื้นที่ของบานพับกับประตู เพื่อให้สามารถปิดรับกับแถบ Pry-resistance hinge bar ได้อย่างลงตัว ช่วยเพิ่มระดับการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ดีไซน์ "บานพับด้านนอก" ช่วยแก้ปัญหา Pain Point และตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด เมื่อความสะดวก และความคล่องตัวนั้น ยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อประสบการณ์จากการใช้งานตู้เซฟด้วยเช่นกัน การติดตั้งบานพับไว้ด้านนอก จึงช่วยให้องศาในการเปิด-ปิดตู้เซฟ สามารถทำได้เกือบ 180 องศา ซึ่งตอบโจทย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่มีลักษณะการใช้งานอยู่เป็นประจำนั่นเอง ดีไซน์ “แถบป้องกัน” หรือ Pry-resistance hinge bar... จึงนับเป็นอีกหนึ่งในคุณสมบัติ “การกันขโมย” ของตู้เซฟกันไฟดีๆ... ที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด! Sentrysafe ตู้เซฟคุณภาพสูงจากอเมริกา https://www.naradee.com/SENTRYSAFE
Tips : คราบราดำ อีกแล้ว

กรกฎาคม 04, 2021

Tips : คราบราดำ อีกแล้ว
Tips : คราบราดำ อีกแล้ว เชื้อราเจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้น อบอ้าว ก่อร่างสร้างคราบดำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจอประจำทั้งในห้องน้ำ ห้องครัว ฝ้าเพดาน ห้องเก็บของ ฯลฯ .......... เจอบ่อย จนเบื่อ !! ป้องกันยังไง ไม่ให้เกิดเชื้อรา ? 1. ระบายอากาศ ให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความชื้นสะสม เช่น เปิดพัดลมระบายอากาศขณะใช้และหลังใช้ห้องน้ำ เปิดประตูหรือช่องระบายอากาศบ่อยๆในห้องที่อับชื้น เป็นต้น 2. สำหรับห้องน้ำหินอ่อน ควรเคลือบด้วย เอชจี มาร์เบิล โพรเท็คเตอร์ เพื่อกันซึม กันคราบหินปูนและกันราดำ เคล็ดลับ ขจัดคราบรา 1. เบคกิ้งโซดา ละลายเบคกิ้งโซดา 6 กรัมในน้ำร้อน 1 ลิตร เทลงบนคราบ ใช้แปรงขัดแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด 2. น้ำส้มสายชู ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู เช็ดที่คราบ ทิ้งไว้สักครู่ จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จนกระทั่งหมดกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้ม 3. น้ำยาฟอกขาว ผสมน้ำยาฟอกขาว 25 มล. ในน้ำ 1 ลิตร ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาเช็ดที่คราบหลายๆรอบ แต่ต้องระวังอย่าให้พื้นผิวเสียหาย ถ้ารู้สึกยุ่งยาก กับวิธีข้างต้น หรือไม่มั่นใจว่าจะได้ผล อยากให้ลอง เอชจี บาธรูม โม สเปรย์ ใช้ดูแล้วจะรู้คำตอบ
HG รวบ 2 รางวัล “ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งเนเธอร์แลนด์ ปี 2020-2021”

มิถุนายน 28, 2021

HG รวบ 2 รางวัล “ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งเนเธอร์แลนด์ ปี 2020-2021”
HG รวบ 2 รางวัล “ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งเนเธอร์แลนด์ ปี 2020-2021” “HG superpower toilet cleaner” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค (Disinfectants) “HG hob cleaner for everyday use” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ขจัดคราบไขมัน (degreasers) โดยเป็นรางวัลที่ได้รับจากการโหวตจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ และบริการในประเทศเนเธอร์แลนด์ (มีรางวัลหลายหลากสาขาทั้งหมดรวมกว่า 50 กลุ่ม) ซึ่งจัดทำโดยบริษัทยักษใหญ่ทางด้านการวิจัยผู้บริโภคอย่าง Q&A Insights BV ในเมือง Amersfoort และ Consumer Contest Company BV ทั้งยังเป็นที่ยอมรับกันในอุตสาหกรรม และมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากในทางในฝั่งโรป ด้วยการรันตีจากพาร์ทเนอร์ของผู้จัดทำโครงการ โดยบริษัทชั้นนำทั้ง Levensmiddelenkrant, SyncForce, C2B, Digital Media Enzo, Hillenaar Outdoor, Magneds และ Plus Magazine HG มีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าอยู่เสมอ #HGใช่แล้วใช่เลย #WinnaarsBesteProductvanhetJaar #HGThailand
HG Tips : เรื่อง "ความชื้น" อย่าปล่อยผ่าน... ถ้าไม่อยากให้บ้านป่วย!!!

พฤษภาคม 14, 2021

HG Tips : เรื่อง "ความชื้น" อย่าปล่อยผ่าน... ถ้าไม่อยากให้บ้านป่วย!!!
HG Tips : เรื่อง "ความชื้น" อย่าปล่อยผ่าน... ถ้าไม่อยากให้บ้านป่วย!!! . ปริมาณความชื้นสะสมที่มีมากเกินไปภายในบ้าน อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ในระยะยาวนะรู้ป่าว!!! โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดทั้งอาการหอบหืดกำเริบ และยังทำให้เกิดสารก่อภูมิแพ้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา ไรฝุ่น เชื้อก่อโรคต่างๆ . แก้ไขอย่างไรดีล่ะ? . 6 วิธีการลดความชื้นสะสมภายในบ้าน เพื่อสุขภาพของเราและบ้านที่ดีกัน (1) จัดการเรื่องการระบายอากาศในห้องต่างๆ (2) ติดตั้งเครื่องดูดความชื้น ช่วยแก้ปัญหาได้ดี (แต่อาจใช้งบประมาณที่มากพอสมควร) (3) วางต้นไม้ให้ถูกที่ สามารถช่วยลดเรื่องฝุ่น หรือมลพิษภายในบ้าน (4) เปิดรับแสงแดดบ้าง และให้อากาศมีการถ่ายเทที่สะดวก (5) ใช้วัสดุดูดความชื้นที่มีอยู่ภายในบ้าน เช่น ถ่านไม้ เกลือ หรือข้าวสารมาใส่ในถุงผ้าไม่ก็ภาชนะที่ระบายอากาศได้ (6) ใช้ผนังชนิดทนชื้นทนรา . และเพื่อให้การลดความชื้น สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิถาพที่สูงที่สุด เราขอแนะนำ “เอชจี กล่องดูดความชื้น” ที่มาพร้อมสารดูดความชื้นปริมาณ 450 กรัม . ใช้สำหรับดูดความชื้นในบริเวณที่มีความชื้นสูง อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเติบโตของเชื้อรา หรือกลิ่นอับ ฯลฯ . กล่องดูดความชื้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ - ส่วนเก็บเม็ดดูดความชื้น (อยู่ด้านบน) ออกแบบมาให้สัมผัสกับอากาศเพื่อดูดซับความชื้นได้ดี และมีผนังโปร่ง 2 ชั้น กันไม่ให้เม็ดดูดความชื้นหกออกมา - ส่วนกักของเหลว (อยู่ด้านล่าง) ใช้รองรับของเหลวที่เกิดจากการทำงานของเม็ดดูดความชื้น มีรูปทรงขนาดสูง ช่วยให้เก็บของเหลวได้ปริมาณมาก, กันของเหลวหกเลอะ และสะดวกเวลาเทของเหลวทิ้ง . สารดูดความชื้น มีรูปร่างทรงกลม ประสิทธิภาพในการดูดความชื้นสูงกว่าสารดูดความชื้นทั่วไปถึง 1.5 เท่า ปริมาณ 450 กรัม ใช้ได้นาน 2-3 เดือน (ขึ้นอยู่กับปริมาณความชื้น) สำหรับพื้นที่ขนาด 40 ลูกบาศก์เมตร (ขนาดห้องกว้างประมาณ 4 เมตร ยาว 4 เมตร, สูง 2.5 เมตร)
Social Line