Promo code
NARA1688
show_now

ARTICLES

“Gilly's” เคลือบไม้สูตรธรรมชาติ… made in Australia

March 16, 2022

“Gilly's” เคลือบไม้สูตรธรรมชาติ… made in Australia
หาก “รักษ์งานไม้” ต้องรู้จัก “Gilly's” โปรดักซ์ดีๆ… made in Australia แบรนด์จากประเทศออสเตรเลียที่มีสตอรี่มายาวนานกว่า 3 เจเนอเรชั่น ซึ่งได้รับการก่อตั้งโดย Gilly Stephenson ณ ย่านเมืองเพิร์ท (Perth) อันมีจุดเริ่มต้นจากสูตร “น้ำยาขัดเงาไม้“ (polish) เพื่อใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ และงานไม้แอนทีคในห้องครัวของตนเอง (ซึ่งได้นำเคลื่อนย้ายมาด้วย หลังจากต้องย้ายถิ่นฐานมาจากบ้านเกิดเพียงเท่านั้น) แต่ด้วยเสน่ห์ และไฮไลต์ที่ซ่อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยเฉพาะการผลิตด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% และคุณสมบัติด้านการปกป้องผิวไม้ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้เป็นที่กล่าวขวัญ และเกิดการทดลองใช้กันในพื้นที่โดยรอบ ทั้งกลุ่มของเพื่อนบ้าน และร้านเฟอร์นิเจอร์แอนทีคต่างๆ จึงทำให้แบรนด์ “Gilly's” เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง หลังจากเริ่มวางจำหน่ายนับตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา ซึ่งนอกจากการจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศออสเตรเลีย ผ่านร้านค้าชั้นนำอย่าง BUNNINGS warehouse ,Mitre 10 , IGA แล้วนั้น ในปัจจุบันยังมีการจำหน่ายทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และล่าสุด คือ ประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติอันโดดเด่นของแบรนด์จำนวน 2 รายการด้วยกัน คือ 1. Gilly's Orange Oil (กิลลี่ส์ ออเรนจ์ ออยล์) ขนาด 250 มล. ราคาพิเศษเพียง 629.- (ปกติ 699.-) สำหรับดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนประกอบหลักสกัดจากพืช 100% Food safe ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน มีกลิ่นหอม สำหรับดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์อในกรณีที่ไม่ต้องการความเงาสูง กิลลี่ส์ ออเรนจ์ ออยล์ มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดที่ดีเยี่ยม และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับฟื้นฟูความเงางามของเฟอร์นิเจอร์เก่า สามารถใช้กับเฟอร์นิเจอร์หวาย ไม้ไผ่ หรือ สำหรับพื้นผิวที่ไม่ได้ขัดเงา เช่น ภายในลิ้นชักและด้านใต้โต๊ะ ผลิตภัณฑ์อาจทำให้สีเนื้อไม้เข้มขึ้นในขณะที่ยังไม่แห้ง โดยสีส้มของผลิตภัณฑ์ไม่ทำให้วิสดุมีสีเปลี่ยนไป ใช้สำหรับ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้เก่า หวาย ไม้ไผ่ เฟอร์นิเจอร์โบราณ อุปกรณ์เครื่องครัว เขียง ของเล่นเด็ก ภายในลิ้นชักและใต้โต๊ะ รายละเอียดเพิ่มเติม www.naradee.com/Orange_Oil 2. Gilly's Liquid Beeswax (กิลลี่ส์ บีแว็กซ์) ขนาด 250 มล. ราคาพิเศษเพียง 629.- (ปกติ 699.-) กิลลี่ส์ บีแว็กซ์ ให้ความชุ่มชื้นกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ป้องกันผิวไม้จากความแห้งและเพิ่มความสวยงามของลายไม้ตามธรรมชาติ อุดมไปด้วยขี้ผึ้งบริสุทธิ์ สามารถใช้ได้กับพื้นผิวเคลือบแล้วหรือพื้นผิวที่ยังไม่เคลือบ และเหมาะสำหรับใช้กับเครื่องตัดเครื่องกลึงได้ เพียงใช้ผ้าหรือแปรงทาสี ทาผลิตภัณฑ์แล้วปล่อยให้แห้งประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วขัดด้วยผ้าที่ไม่มีขุยหรือถุงมือเป็นวงกลม ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอมและ เป็น Food safe เหมาะสำหรับไม้ที่พื้นผิวไม่เรียบในบริเวณกว้าง ใช้ได้ทั้งกับไม้เนื้ออ่อนและเนื้อแข็ง รายละเอียดเพิ่มเติม www.naradee.com/Liquid_Beeswax
แค่เขาบอกว่าเซฟ “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!..คุณก็เชื่อแล้วยังงั้นเหรอ?

January 07, 2022

แค่เขาบอกว่าเซฟ “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!..คุณก็เชื่อแล้วยังงั้นเหรอ?
แค่เขาบอกว่าเซฟ “กันไฟได้ 2 ชั่วโมง!!!..คุณก็เชื่อแล้วยังงั้นเหรอ? ถ้าต้องการแค่ตู้เหล็กสี่เหลี่ยมฉาบปูน ใครๆก็ตอบคุณได้ว่ามันกันไฟได้นานแค่ไหนแต่เบื้องหลังของตัวเลขเหล่านั้น คุณไม่อยากรู้หรอกหรือ ว่ามีอะไรซ่อนอยู่? แท้จริงแล้วมาตรฐานเซฟ แม้แต่เรื่องกันไฟ ก็ยังไม่เหมือนกัน!!! แล้วส่วนใหญ่ก็เข้าใจผิดคิดกันไปเอง ว่าต้องเป็นการทดสอบกับทองหรือเพชรแน่นอน... ไม่ใช่แต่อย่างใด! เพราะจริงๆ มันคือ กระดาษ ใช่แล้ว... มาตรฐานการทดสอบตู้เซฟชั้นนำของอเมริกาอย่างสถาบัน UL (Underwriters Laboratories) ได้ระบุไว้ว่า ตู้เซฟที่ผ่านการรับรอง “แม้แต่เอกสารต่างๆ..ก็ต้องไม่ได้รับความเสียหาย” เพราะกระดาษหรือเอกสารถูกทำลายได้ที่ 232 °C (ทอง 1,064 °C, เพชร 1,878°C) โดยการทดสอบของ UL นั้น.. จะกำหนด Level ของอุณหภูมิกับเวลาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดจำลองเหตุเพลิงไหม้และในภาพคือกราฟของ SentrySafe ที่ผ่านรับรองแล้วว่า สามารถกันไฟได้สูงสุดที่ 1,010 °C เป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยที่เอกสารภายในไม่ได้รับความเสียหายใดๆ*!!! *หลังให้ความร้อน 2 ชั่วโมงยังมีการเฝ้าสังเกตุอีก 68 ชั่วโมง เพราะตู้เซฟยังมีการดูดซับความร้อน และอุณหภูมิยังคงสูงขึ้นอีก (มีเซฟบางแห่งไม่ผ่านการทดสอบในช่วงนี้) ตัวอย่างเซฟกันไฟของSentry Safe (คลิก)
How to descale your Nespresso machine

January 07, 2022

How to descale your Nespresso machine
Nespresso descaling | How to descale your Nespresso machine kitchen It is important to descale your Nespresso machine regularly. After a while, limescale will begin to build up because there is calcium in the tap water. This limescale attaches itself to the inside walls and various parts of the Nespresso machine. This of course does not help the functioning or the taste of the coffee! Discover the best ways for Nespresso descaling below. * Why is descaling your Nespresso machine necessary? * Prevent descaling Nespresso machine * How to descale your Nespresso machine? * HG is the solution for Nespresso descaling * What are the advantages of descaling a Nespresso machine? Why is descaling your Nespresso machine necessary? Your Nespresso machine contains a heating element to heat the water and an aluminium frame is attached to that element. Our tap water contains limescale. Limescale build up or boiler scale forms when heating or boiling water. Hard water contains a high concentration of calcium and magnesium chlorides, causing a relatively large build up of boiler-scale during heating. When your machine heats the water, calcium chlorides are broken down and then attach themselves to the aluminium frame, causing limescale. The areas where the water remains standing (in the boiler) get the most limescale. After a while, your Nespresso machine will not function optimally due to this layer of limescale. Prevent descaling Nespresso machine Preventing limescale in your Nespresso machine is practically impossible due to the amount of calcium in our tap water. The only solution for decreasing the frequency of your Nespresso descaling is to install a water softener. Water softeners remove calcium, magnesium, and certain other metal cations so the calcium level is reduced. But this is no guarantee that you will never have to descale your Nespresso or other coffee machine. And water softeners are rather costly. HG has an effective nespresso descaling solution for maintaining your expensive coffee machine without a water softener so that it will last for years to come, the HG descaler for espresso & pod-coffee machines based on citric acid.  How to descale your Nespresso machine? Nespresso descaling with vinegar We often hear that you can descale a Nespresso machine with vinegar. Pour a few teaspoons of vinegar with some water in your Nespresso machine and let it drip about halfway through. Turn your machine off for 45 minutes and let the rest drip through. Rinse the Nespresso machine several times well before using it again. Although many people use this method, we strongly advise against it because: 1. It can damage the pipes in the Nespresso machine. 2. It breaks apart the limescale and only removes parts of it. This means descaling with vinegar does not give you the best result. 3. Vinegar remains are difficult to remove from the Nespresso machine. The unpleasant taste and odour of the vinegar will remain in your coffee for quite some time after descaling your Nespresso machine. Looking for a more reliable solution for descaling your Nespresso machine? Then try one of the solutions from HG developed especially for descaling for espresso & pod-coffee machines. HG is the solution for Nespresso descaling HG descaler for espresso & pod-coffee machines based on citric acid that removes limescale from all types of Nespresso, espresso and pod-coffee machines. With regular use of the HG descaler your coffee will continue to taste delicious and your coffee machine will work optimally.  The descaler for espresso & pod-coffee machines based on citric acid is sufficient for cleaning your Nespresso machine 6 times. For descaling standard coffee machines, we recommend HG quick descaler.  What are the advantages of descaling a Nespresso machine? Descaling your Nespresso machine regularly has lots of advantages, including the following: 1. A longer lifespan for your Nespresso machine 2. Better coffee (fuller cups, a rich flavour and the correct temperature) The limescale build up causes the coffee to flow through the machine more slowly, resulting in less coffee in the cup. In addition, the water will have less direct contact with the pipes because of the limescale and so the coffee might feel lukewarm. 3. Preventing reparation costs for limescale damage  4. A quieter Nespresso machine Limescale makes the pipes of the machine narrower, so the Nespresso machine pump has to work harder. This also causes the machine to make more noise.
ไขก๊อก... กุญแจล็อค

January 07, 2022

ไขก๊อก... กุญแจล็อค
     ไขก๊อก... กุญแจล็อค “ระบบลูกปืนคู่” ดูฟูลออปชั่นกว่ายังไง?นับเป็นหนึ่งในตำนานระบบล็อคของกุญแจที่ยังคงสร้างมนต์เสน่ห์ได้อย่างไม่รู้จบ เพราะไม่ว่านวัตกรรมจะนำพาความก้าวไกลให้อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในกลุ่มนี้ สามารถวิวัฒนาการตัวเองให้ไปเชื่อมต่อกับมือถือ แล้วเลือกคำสั่งการ และพร้อมทำงาน หรือการปลดล็อคผ่านระบบบลูทูธกันได้แล้วก็ตามที แต่สิ่งหนึ่งอันเป็นเบื้องลึกที่ยังฝังอยู่ใน DNA เกือบทุกอณู ซึ่งถูกซ่อนไว้ด้วยฉากหน้าของคำว่า “กุญแจล็อคความปลอดภัยสูง” หรือ High Security Level Padlock อย่างที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้สังเกตุมาก่อนนั้น... ซึ่งก็คือ กลไกการล็อคใน “ระบบลูกปืนคู่” หรือศัพท์ในเชิงเทคนิคที่เรียกกันว่า “Dual-Ball Bearing Locking” นั่นเอง ซึ่งก็คือ กลไกการล็อคใน “ระบบลูกปืนคู่” หรือศัพท์ในเชิงเทคนิคที่เรียกกันว่า “Dual-Ball Bearing Locking” นั่นเอง เมื่อความสัมพันธ์กันของกระบอกกุญแจ, ตัวสลักหมุน 180 องศา และการเคลื่อนที่ของลูกปืนเข้าสู่ตำแหน่งล็อคระหว่างห่วงกุญแจทั้งสองข้างนั้น ถูกทดสอบแล้วว่า มีความปลอดภัยสูงกว่ากุญแจล็อคในระบบของสปริงอยู่หลายจุดเลยทีเดียว ทั้งในแง่ของความทนทาน และในเชิงของการป้องกันการสะเดาะกุญแจ เช่น • จากการถูกเขี่ยที่รูกุญแจ • การสอดลวดเข้าไปในรูของห่วงกุญแจทั้งสองข้าง เพื่อทำการกดสลักที่เป็นสปริงให้คลายล็อคออก • รวมทั้งลักษณะการทำงานแบบ Deadbolt หรือการล็อคตายของคอกุญแจ แม้ว่าจะถูกตัดที่ห่วงกุญแจ แต่ก็ต้องตัดจนให้มีพื้นที่มากพอที่จะเอากุญแจออกจากหูช้าง หรือบานพับนั่นเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมตั้งแต่ในช่วงปี 1900 ซึ่งเป็นยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมทั้งทางฝั่งอเมริกา และโลกตะวันตกนั้น มักนิยมใช้กุญแจในระบบล็อคประเภทนี้เกือบทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับทางกองทัพ สถานที่ราชการ หรือแม้กระทั่งกับในเรือนจำก็ตาม ปัจจุบัน จึงยังมีการพัฒนาและเสริมความสมบูรณ์แบบกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลบจุดอ่อน โดยการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชิ้นส่วนของห่วงกุญแจ ด้วยการใช้โลหะธาตุจาก “โบรอนคาร์ไบด์” ที่มีคุณสมบัติด้านการต้านทานแรงตัดได้สูงกว่าเหล็กกล้าถึงหลายเท่า หรือการเสริมประสิทธิภาพที่ตัวกุญแจด้วยโลหะจากธาตุซิงค์ในระดับนาโน เพื่อเติมเต็มด้านความทนทานต่อการกัดกร่อนให้พร้อมเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง (จึงมักถูกนำไปใช้ในงาน outdoor เช่น ประตูโรงงาน,โกดัง,ห้องเก็บของ ฯลฯ ) และจุดหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดอยู่ นั่นคือ รูปแบบในการล็อค หรือวิธีการใช้งาน ซึ่งแม้ว่าโดยส่วนใหญ่เราอาจจะพบเจอ หรือคุ้นชินกับการใช้งานในลักษณะ “เปิดแล้วต้องปิดก่อน” (Key retaining lock) ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้ใช้ไม่ลืมไขกุญแจทิ้งไว้ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากว่ากันในเชิงทางเทคนิค ก็อาจเป็นเพียงแค่ลักษณะของฟังก์ชันเล็กๆ ส่วนหนึ่งจากทางผู้ผลิตที่มิได้มีผลในด้านอื่นๆ แต่อย่างใดนัก เพราะสุดท้ายแล้ว ก็มักจะขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งานเป็นสำคัญนั่นเอง ดูรายละเอียดกุญแจระบบลูกปืน High Security Padlock และกุญแจคล้องของ Master Lock ทุกรุ่นได้ที่ MASTERLOCK Ref http://rageuniversity.org/PRISONESCAPE/PRISON%20LOCKS%20AND%20KEYS/Lock-Mechanisms.pdf https://en.wikipedia.org/wiki/Padlock https://unitedlocksmith.net/blog/the-history-of-padlocks http://www.lockwiki.com/index.php/Key_retaining
เสริมเซฟตี้อุตสาหกรรมของคุณ ด้วย " LOTO "

January 07, 2022

เสริมเซฟตี้อุตสาหกรรมของคุณ ด้วย " LOTO "
เสริมเซฟตี้อุตสาหกรรมของคุณ ด้วย LOTO ของเรา #เซฟตี้ทุกเหตุไม่คาดฝัน เซฟตี้ทุกงานประจำวัน ด้วย “Lock-out/Tag-out” (LOTO) ตามมาตรฐาน OSHA ✔️ทนทาน ✔️แข็งแรง ✔️ได้มาตรฐาน ✔️สามารถระบุบตัวตนได้ กุญแจคล้องตระกูล Lockout “Master Lock 406” ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่องานด้านความปลอดภัยให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าในพื้นที่อันตราย - ตัวฐานผลิตจากวัสดุผสม Zenex™ - ห่วงกุญแจผลิตจากไนลอนผสม และหุ้มด้วยแผ่นฉนวนไฟฟ้า ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ (ศก. 6 มม.) - ทนต่อการกัดกร่อน สารเคมี ที่อุณหภูมิตั้งแต่ -57 °C ถึง +177 °C - ตัวฐานกุญแจคล้องมีความทนทานต่อแสง UV - การต้านทานกำลังดึงในตำแหน่งปิด: 114 กก. (252 ปอนด์) ตัวเลือกกุญแจคล้อง: - ลูกกุญแจเดี่ยว (KD) - ลูกกุญแจเหมือนกัน (KA) - ระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์ (MK) - สามารถสลักด้วยเลเซอร์ทั้งด้านข้าง และด้านหน้าของตัวฐาน เพื่อการระบุรายละเอียดได้ - รวมป้ายข้อมูลติดกุญแจคล้อง “Danger!!!(อันตราย)” และ “Property of (ทรัพย์สินของ)” ✅เรายังพร้อมให้คำแนะนำสำหรับกลุ่ม “อุปกรณ์ล็อคด้านความปลอดภัย (Safety Series)” เพื่อป้องกันความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น การซ่อมบำรุง หรือแก้ไขส่วนต่างๆ ของแหล่งจ่ายพลังงาน ✅ตอบโจทย์ทุกการดำเนินงานทั้ง อุปกรณ์ล็อควาล์ว,ล็อคปลั๊กไฟฟ้า, ล็อคระบบนิวแมติก, ล็อคเซอร์กิตเบรกเกอร์, ฝาครอบป้องกันปุ่มกด และสวิตซ์ ฯลฯ พร้อมอุปกรณ์ที่มีให้เลือกอย่างครบครัน ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทุกขนาด (โรงงาน โรงแรม คอนโดฯ) หากมีข้อสงสัย เรายินดีให้คำปรึกษา ---------------------------------------------------------------------- ✨ สอบถามรายละเอียด ✨ 1.ทาง inbox ข้อความเพจ คลิ๊ก FACEBOOK.MASTERLOCK.Thailand 2.Website naradee.com 3.ทางไลน์ Line ID : @naradee แอดไลน์คลิ๊ก
ต่อให้ถูบ้านเป็นล้านครั้ง... แต่พื้นเหล่านั้น ก็ยังดูไม่สะอาด!!!

November 24, 2021

ต่อให้ถูบ้านเป็นล้านครั้ง... แต่พื้นเหล่านั้น ก็ยังดูไม่สะอาด!!!
  - ต่อให้ถูบ้านเป็นล้านครั้ง... แต่พื้นเหล่านั้น ก็ยังดูไม่สะอาด!!! - ประโยคอันชวนสงสัยให้ใครต่อใครทั้งหลายทั้งปวง ได้ลองกลับมาทบทวนถึงเรื่องราวของที่สุดจุดใต้ตำตอ - แต่คุณจะร้อง “อ๋อ..” ทันทีที่พบว่า หนึ่งในกิจวัตรที่ส่งผลต่อความเฉิดฉายให้สถานวิมานอย่าง “การทำความสะอาดพื้นบ้าน” นั้น ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่เพียงในวงโคจรของการ กวาดบ้านถูบ้าน เท่านั้น แม้ ณ วินาทีนี้ คุณอาจจะพรั่งพร้อมไปด้วยถังปั่นน้ำคุณภาพระดับจักรวาลแล้วก็ตามที “ความไม่สบายเท้า*” ในหลายครั้งมักเกิดขึ้นจากโสตสัมผัสที่ไปสะกิดต่อมกวนใจให้กับเหล่าแม่บ้าน ทั้งๆ ที่เพิ่งอุทิศเวลาในเมื่อสักครู่ ไปกับการมุมานะทั้งการกวาดและการถูอย่างตรากตรำ จนทำให้บางครั้งต้องนำไปสู่การตัดใจ ใส่เอี๊ยม และเตรียมเปิดห้องเก็บของหรือเข้าห้องครัว เพื่อเตรียมอุปกรณ์คู่ใจแล้ววนกลับไปกวาดซ้ำถูซ้ำเป็นอีกคำรบ (*มักเห็นเป็นคราบดำคราบฝุ่น เมื่อลองทดสอบด้วยการเอาทิชชู่หรือผ้าซับหมาดๆ กรีดลงบนพื้นที่แห้งหลังจากการกวาดถูพื้นใหม่ๆ) แต่ถ้าหากเราพบว่า “ความไม่สบายเท้า” ข้างต้นนั้น... อาจซ่อนอยู่ในห้วงแห่งความรู้สึก ผ่านทุกอณูทุกรูพรุนของพื้นวัสดุแล้วล่ะก็... มันอาจจะดีกว่านี้ก็เป็นได้นะ > เก็บกวาดดีมีชัยไปกว่าครึ่งนะ แม้ว่าตามอาคารบ้านเรือนของเราๆ นั้น จะไม่สามารถทำการเลือก 1 ใน 4 โปรแกรมหลักๆ ของบริษัททำความสะอาดพื้นได้ก็ตาม เพราะขั้นตอนที่พร้อมปฏิบัติงานด้วยเครื่องปั่นพลังสูงแบบที่เราเห็นๆ กันตามโรงพยาบาล หรือโรงแรมเหล่านั้น นอกจากจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการขัดหน้าผิวพื้นแล้ว ด้วยลักษณะของแรงดันในระดับสูงนี้เอง ยังสามารถช่วยดันเศษฝุ่นผง หรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เกาะติดฝังแน่น (โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการสัญจรมากๆ) ให้หลุดออกมาจากรูพรุนของพื้นวัสดุได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่การใช้เครื่องดูดฝุ่นด้วยระดับความถี่ที่คนในครอบครัว และเพื่อนข้างบ้านไม่รู้สึกรำคาญจนเกินไป ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการปัดกวาดแบบทั่วไปด้วยไม้กวาด เพราะด้วยจำนวนดอกหญ้าที่ร่วงโรยราดั่งมีวันหมดอายุนี้เอง ยังมีโอกาสต่อการหลงเหลือของฝุ่นละออง และอาจเกิดการฝังแน่นลงตามรูพรุนของพื้นวัสดุได้มากขึ้น ซึ่งหากมีการถูพื้นหลังการกวาดในตอนนั้น จึงยิ่งเป็นการดันให้สิ่งสกปรกให้ยิ่งฝัง “แน๊น แน่นนน” กว่าเดิมได้อีกด้วยนะ > ถูยังไงให้โลกจำนะ โลกจะจำทันที เมื่อวันนี้คุณสามารถถูบ้านได้เพียงรอบเดียว โดยใช้เพียงการสังเกต “สีของน้ำในถังปั่น” (ร่วมกับความไม่เกียจคร้านในการเปลี่ยนน้ำเด็ดขาด!) เพราะการถูซ้ำๆ ด้วยน้ำแค่ถังเดียวแบบนั้น หากเป็นพื้นที่ในบริเวณกว้างๆ ก็อาจเป็นเพียงการน้ำฝุ่นที่ดักจับมาชุบลงในถัง แล้วก็เปลี่ยนที่ให้ความสกปรกเหล่านั้น กลับไปสะสม ณ อีกพื้นที่หนึ่งเพียงเท่านั้นเอง ซึ่งหากทำให้โลกจำได้เช่นนั้น จึงอาจเป็นการประหยัดแรง และน้ำยาถูพื้นได้มากกว่าการต้องถูซ้ำเป็นรอบที่สองได้อีกด้วยนะ > ไฮไลต์ของน้ำยาถูพื้นคืออะไรบ้างนะ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นคุณภาพสูงนั้น นอกจากความสามารถในการขจัดฝุ่นได้อย่างล้ำลึก พร้อมให้กลิ่นที่สดชื่นหลังการถูแล้ว ยังต้องสามารถทำปฏิกิริยากับชั้น Top-layer ได้เป็นอย่างดี เพื่อคืนความสดใสให้กับพื้นวัสดุนั้นๆ ได้อีกด้วยนะ > สบู่หนึ่งก้อนเค้าไม่ฟอกทั้งตัวแล้วนะ เช่นเดียวกันกับการดีไซน์สัดส่วนของบ้านเรือนสมัยนี้ ที่มีหน้าตาของพื้นบ้านแยกตามฟังก์ชันการใช้งานไม่ต่ำกว่าสองชนิด โดยลักษณะเฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นบ้านที่เกิดจากการรังสรรค์ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันนั้น เช่น - พื้นกระเบื้องดินเผาสุดคลาสสิคในโรงรถ - พื้นแกรนิโต้เคลือบเงาสุดหรูบริเวณชั้นล่าง - หรือพื้นบ้านไม้แท้อันสะท้อนรสนิยมบนชั้นสอง จึงควรค่าแก่การดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่พัฒนาขึ้นมาให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวนั้นๆ โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับทุกคุณสมบัติและโครงสร้างของวัสดุที่ต่างชนิดกันแบบนั้นด้วยนะ
HG does what it promises: TÜV-tested

November 24, 2021

HG does what it promises: TÜV-tested
HG does what it promises: TÜV-tested Never before, so many products from one organisation were tested with these kind of results. HG does what it promises. This is now confirmed by TÜV. All our tested products got a TÜV-certificate. Want to know more?  Or even better, use our product and see yourself. What about the test? HG has an extensive selection of high-quality cleaning products for usage in and around the home. For  the TÜV testing procedure, we made a representative selection of our products based on use, sales and application. You can find the full selection of submitted products below. What were the results? All products passed the test with flying colours. All products met the consumer needs, expectation and requirements. Especially on effectiveness. Furthermore, most testers said the products were easy to use and ensured quick results. Most heard improving point was merely on the design. All products got at least a score of ‘good’. We are pleased with these results. They show HG produces effective specialty cleaning products that help consumers in overcoming every cleaning challenge. About TÜV ‘TÜV geprüft’ is a well-known slogan in multiple European countries. TÜV is a well-known and highly trusted testing company and stands for independence, reliability and quality. TÜV is an association that carries out (mainly) security and quality checks and ensures all these checks are met by high standards concerning law, consumers needs and safety. TÜV has different testing companies throughout Germany, with their own speciality. The products of HG were tested by TÜV Saarland. Read more about them on their website.
HG สื่อรักเคลียร์ใจ…

November 24, 2021

HG สื่อรักเคลียร์ใจ…
HG มีสื่อรักเคลียร์ใจ…  ให้ "เจ้าคุณทาส และ เจ้านายเหมียว” ได้เกี่ยวก้อยรักกัน… ตราบชั่วนิจนิรันดร . อย่าให้ความรักอันแสนหวาน ซาบซ่า กุ๊งงง กิ๊งงง จำต้องเลือนหายไปกับสิ่งที่เขาเรียกกันว่า  “กลิ่น ฉี่ บังตา” เชียวนะ . ใช่แล้ว… อ่านไม่ผิดหรอกจ่ะ  . เพราะถึงแม้นว่า เจ้านายเหมียวที่เหล่าทาสทั้งหลายนั้นต่างจะรัก และเทิดทูน หวงแหน (หรืออาจจะเป็นดั่งตัวแทนได้เข้ารับส่วนแบ่งจากกองมรดก และกิจการทั้งปวง) ซึ่งต่างได้รับทั้งความเอ็นดู และอยู่ในสายตาอย่างหลากคุณูประการก็จริงอยู่  . แต่กลับอาจจะยังดูมิใช่อนิจจังเสียทั้งหมด  . เมื่อโลกนี้ต่างยังให้ทั้งคู่ได้ต้องพาลพบ และผ่านประสบกับการพิสูจน์รักแท้ แม้จะดูเหมือนกับว่า ส่วนมากมักจะถูกขีดเขียนอยู่บนบทละครที่ว่าด้วยเรื่องของ “กลิ่นฉี่เจ้ากรรม… ทำทาสนั้นไม้เรียวสั่น”  . ซึ่งหากไม่นับจังหวะที่ทาสนั้นอาจจะยังเบลอๆ แล้วดันเผลอไปเจอกับกองเศษซากของทิชชู่ม้วนใหม่ ณ ใต้โต๊ะเก้าอี้ หรือแอบเห็นว่ามีร่องรอยการตะกุยโซฟา (ก็คิดซะว่าน้องช่วยแต่งเติมลวดลายให้ก็แล้วกันนะ)  . ก็อาจจะพูดได้ว่า “การจัดการเรื่องกลิ่นฉี่เหม็น” นั้น นับเป็นเพียงแค่เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ทำให้ทั้งคู่ต่างต้องเข้าประจัญหน้า และเตรียมฟาดฟันกันอย่างออกรสออกชาติได้อย่างถึงที่สุด เพราะไม่ว่าจะหยุดอยู่ที่การอุทรณ์กันด้วยวาจา หรือสถานการณ์นำพาให้หนักเข้าขั้น นั่นอาจหมายถึง การต้องเข้าต่อสู้ฟาดฟันกันบนสมรภูมิใดซักแห่งหนบนบ้านเรือน เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งระหว่างเจ้านายเหมียวผู้มาพร้อมด้วยกรงเล็บพิฆาต หรือสุดท้ายแล้ว จะเป็นเจ้าคุณทาสผู้มีเพียงไม้เรียวในมือ (แต่ก็มักดูบิดผิดรูปไปบ้างจากการใช้งานหนักก็ตาม) . ได้เวลาแล้วรึยัง?… ที่จะหยุดความระหองระแหงเหล่านี้ มิให้วนเวียนอยู่กับเพียงแค่ปัญหาเดิมๆ อย่างเรื่อง “กลิ่นฉี่เหม็น” ทั้งที่เป็นการฉี่แบบไม่เป็นที่ หรือ กลิ่นคาวอึ กลิ่นคาวฉี่ ที่สะสมอยู่ในกระบะทราย . โดยมีอย่างหนึ่งเหนือสิ่งอื่นใดที่ทาสต้องรู้ไว้ และก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะ เพราะ “กลิ่นฉี่ของน้องแมว” นั้น ถูกจัดได้ว่า เป็นเจ้าแห่งฉี่ที่ส่งกลิ่นเหม็นที่สุด นับตั้งแต่มีการเทียบเคียงกับบรรดาเหล่าสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ หรือแม้แต่กับมนุษย์โลกเลยทีเดียว . ทาสจะภาคภูมิใจมั้ยน้าาา .   โดยอารัมภบททั้งหมดนี้… ก็มีเจ้า “แอมโมเนีย” (Ammonia) นี่แหละ… ที่เป็นละครสำคัญ!!!! . กลิ่นฉี่ของน้องแมวอันเหม็นคุ้งนั้น นับเป็นผลพวงหลักๆ ของสารที่มีชื่อทางการว่า “แอมโมเนีย” (สารชนิดเดียวกับที่พบในกองขยะ และปัสสาวะของมนุษย์) โดยส่วนใหญ่แล้ว มักถูกสร้างขึ้นจากแบคทีเรียโดยรอบ เข้าไปทำปฏิกิริยากับ กรดยูเรีย (Urea) ในปัสสาวะนั่นเอง  . และกลิ่นเหม็นอาจเพิ่มขึ้นได้เป็นเท่าทวี หากน้องแมวนั้นออกไปเที่ยวเล่น หรือไปเกลือกกลิ้งตามแหล่งสะสมของแบคทีเรียในกลุ่มนี้กลับมา ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งทางขน หรือส่วนใดส่วนหนึ่งทางผิวหนัง โดยเจ้าแบคทีเรียเหล่านี้ สามารถผลิตเอนไซม์ที่ชื่อว่า ยูรีเอส (Urease) ซึ่งย่อยสลายทั้งฉี่ หรืออึของน้องที่สะสมอยู่เป็นเวลานานๆ ให้กลายไปเป็นได้ทั้งสารประกอบแอมโมเนีย และกรดคาร์บอนิค โดยส่งผลให้เราจึงยิ่งรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวที่ยังคงติดค้าง ถึงแม้ว่าจะมีการล้างทำความสะอาดแบบทั่วๆ ไปแล้วก็ตาม . หรือกลิ่นอีกประเภทหนึ่งที่ชื่อ “กลิ่นแคทตี้” (Catty Odour) . โดยส่วนใหญ่ในต่างประเทศนั้น มักจะคุ้นหูกับคำนี้กันเป็นอย่างดี เพราะนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆ ในเรื่อง กลิ่นเหม็นฉี่ของน้องแมว แต่ถูกเฉพาะเจาะจงลงลึกไปที่ปัญหากลิ่นที่เกิดขึ้นในกระบะทรายของน้องนั่นเอง . ซึ่งกลิ่นดังกล่าว เป็นปฏิกิริยาที่มาจากการย่อยสลายของสารที่มีชื่อว่า “เฟลินิน” (Felinine) (สารดังกล่าวนับเป็นหนึ่งใน ฟีโรโมน ของเจ้าเหมียวด้วยนะ จึงทำให้เวลาหาคู่ หรือตามหาความรัก เราจึงมักเห็นน้องเขาดมๆ ที่ก้นกันและกัน)  . โดยสารในกลุ่มนี้ จะถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงวัยตั้งแต่ 3 เดือน จนกระทั่งถึงช่วงก่อนโตเต็มวัย โดยเฉพาะกับน้องแมวตัวผู้ ซึ่งหากเราลองสังเกตุดีๆ ก็จะพบทราบว่า กลิ่นฉี่เหม็นในช่วงระยะนี้ มักจะส่งกลิ่นแรงมากๆ นั่นเอง เพราะถึงแม้ว่า สารเฟลินิน จะไม่มีกลิ่นก็จริง แต่เมื่อทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสภาพแวดล้อมแล้วนั้น ก็จะทำให้เกิดสารประกอบกลุ่ม กำมะถัน (Sulfur) หรือ ส่วนประกอบของแก็สไข่เน่า นั่นเอง . ซึ่งโดยทั่วไป นอกจากทำให้เกิดกลิ่นที่เหม็นมากๆ แล้ว ยังมักจะทำให้เกิดกลิ่นติดค้างสะสมอยู่ที่กระบะทราย หรือบางทีก็อาจจะมีกลิ่นติดไปกับตัวน้องได้ .   ฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดกลิ่นฉี่ของเจ้าเหมียวนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลักจากจุลินทรีย์ธรรมชาติ เพื่อเป็นการยับยั้งปฏิกิริยาการย่อยสลายของสารยูเรีย ซึ่งนับเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้เกิดสารประกอบแอมโมเนีย และกลิ่นเหม็นในที่สุด โดยข้อดีนอกจากการไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อน้องแมวแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการก่อตัวของกลิ่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  . ทั้งนี้ ย่อมดีกว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่มีเพียงส่วนช่วยในการกำจัดกลิ่น หรือปกปิดกลิ่นด้วยน้ำหอมแบบทั่วๆ ไป เพราะนอกจากไม่ได้ช่วยให้เป็นการทำความสะอาดอย่างถูกสุขอนามัยแล้ว หากยังมีการใช้ต่อไปในระยะยาว ย่อมอาจส่งผลต่อสุขภาพของเจ้านายเหมียวที่เหล่าทาสต่างเทิดทูนก็เป็นได้ . HG มีสื่อรักเคลียร์ใจ …  “เจ้าคุณทาส” ได้ใช้แล้ว “เจ้าคุณเหมียว” ก็คงต้องร้องบอกว่า ใช่เลยยย!!! Ref. pubs.acs.org hd.co.th
ศาสตร์ของ “คน รักษ์ พื้น บ้าน”

November 24, 2021

ศาสตร์ของ “คน รักษ์ พื้น บ้าน”
เพราะจุดตัดระหว่าง “การดูแลวัสดุปูพื้นบ้าน” กับความเข้าใจใน “ศิลปะแห่งการขจัดคราบ” อาจเปรียบได้ดั่งพื้นฐานให้กับนิยามของ คนรักบ้าน อย่างแท้จริงอยู่เสมอ แต่คงน่าเสียดายไม่น้อย… หากในตอนสุดท้ายของกลุ่มคนโดยทั่วไป กลับยังใส่ใจเพียงแค่การนั่งนับวันพลันตั้งตารอต่อการมาถึงในช่วงเวลาของการรีโนเวท มากกว่าที่จะเห็นเป็นประเภทของ “Cleaning, Protecting & Beautifying” อันเป็น The King of Concept จาก HG เพื่อการดูแลบ้านแบบ D.I.Y ได้อย่างครบวงจรมากที่สุด!!! โดยเฉพาะในเรื่องของวัสดุปูพื้นบ้านทุกชนิด!!! ย้ำว่าทุกชนิด!!! และเพราะองค์ประกอบในตัวโครงสร้างของวัสดุที่แตกต่างกันนี้เอง จึงทำให้วิธีการดูแลพื้นผิว และการจัดการกับปัญหาของการเกิดคราบนั้น จึงต้องการความเข้าใจในแบบฉบับของ “คนรักษ์พื้นบ้าน” ในชนิดที่อาจเรียกได้ว่า “ให้มันได้รู้ลึกลงไปถึงในระดับของรูพรุนสักครั้ง… ก็น่าจะดี” #เข้าใจให้ลงลึกถึงในระดับของรูพรุน เมื่ออีกนัยหนึ่งในเรื่อง “ขนาดของรูพรุน” หรือ Porous นั้น สามารถเปรียบได้ดั่งดัชนีชี้วัดถึงความสามารถต่อการดูดซับ และอัตราการไหลของของเหลว (บางคนอาจลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป แต่อย่างไรก็ดี เรื่องนี้กลับมีผลกับเรื่องคราบเป็นอย่างมากนะ) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ หรือพื้นหินธรรมชาติใดๆ ก็ตามที หากยิ่งพบเจอกับการทำความสะอาดที่ไม่ดี และมีสิ่งสกปรกต่างๆ ถูกปล่อยปะละทิ้งเอาไว้อยู่นานวัน หรือแม้กระทั่งอันมีมูลเหตุจากการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีในบางกรณีร่วมด้วยแล้ว  เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ย่อมเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนกัน และยิ่งส่งผลต่อการเกิดคราบสกปรกสะสมฝังแน่น รวมทั้งมักจะเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การเป็นคราบด่าง สีไม่สม่ำเสมอ หรือสังเกตุเห็นได้ถึงความขุ่นหมองกันได้แบบถาวรนั่นเอง #ชั้นหน้าผิวถูกทำลายอะไรๆก็ดูแย่ ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้พื้นที่นั้นๆ เพื่อการสัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ หรือการทำความสะอาดอย่างไม่ถูกวิธี เช่น การเคยลองขจัดคราบหนัก ด้วยการใช้สารที่มีฤทธิ์เป็นกรดค่อนข้างสูง แล้วภาวนาให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นหายไป แต่ทันใดนั้น สารเจ้ากรรมอาจช่วยให้คราบหนักเหล่านั้นหายไปได้ก็จริง แต่กลับกลายเป็นการทิ้งความเสียหายไว้ให้กับชั้นเคลือบผิวที่มักจะมีการหลุดหล่อนออกไปด้วยเช่นกัน  ซึ่งยิ่งส่งผลให้ภาพรวมนั้นแลดูแย่ลงอย่างเป็นทวี เพราะเมื่อพื้นที่ ณ จุดนั้นๆ มีการเสียสภาพของโครงสร้างจากการขัดถู หรือการกัดกร่อนอย่างรุนแรงและบ่อยครั้ง ผลสุดท้ายจึงมักแสดงออกมาให้เราเห็นได้ในรูปของการเกิดรอยแตกร้าว, เกิดคราบสกปรกสะสมได้ง่ายขึ้น หรือสังเกตุเห็นความเข้มของสีพื้นผิวที่เริ่มจะดูไม่สม่ำเสมอ เพียงเพราะก่อนหน้านี้เผลอไปเชื่อกูรูผู้รู้อยู่แต่นอกตำราก็เป็นได้ #เสียเวลาน้อยกว่าถ้ารู้จักคราบนั้นมากกว่าใคร เพราะการรู้จักคราบ และสาเหตุต่างๆ ที่มากพอ ก็จะช่วยให้คุณเสียเวลาไปกับเรื่องเหล่านี้ได้น้อยลงเป็นอย่างมาก เพราะคราบที่เราเห็นๆ กันนั้น ในบางกรณีก็อาจจะยาก หรืออาจต้องใช้ขั้นตอนที่พิเศษสุดๆ เพื่อการขจัดคราบเหล่านั้นให้ออกไปได้นั่นเอง ซึ่งคราบโดยทั่วไปบนโลกนั้น สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. คราบอินทรีย์ หรือ Organic stains หมายถึง คราบที่มักเกิดขึ้นจากกระบวนการของจุลินทรีย์ต่างๆ ทั้งที่มาจากอาหาร เครื่องดื่ม พืชพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งกลุ่มของสารที่มีสีย้อมด้วยในบางกรณี อาทิเช่น คราบจากไวน์ คราบจากเชื้อรา คราบจากน้ำมัน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่ของคราบในกลุ่มนี้ หากได้รับการทำความสะอาดอย่างทันถ่วงที ก็จะสามารถช่วยลดการเกิดคราบสะสมได้เป็นอย่างมาก  เพราะเคยมีการทดสอบเรื่อง อัตราการดูดซับ และผลจากอัตราการไหลของของเหลว ด้วยการหยดน้ำมันทิ้งไว้บนพื้นหินอ่อน และพื้นคอนกรีต แล้วทำการทิ้งไว้เป็นเวลาหลายวัน พบว่า เมื่อลองพลิกดูอีกด้านของวัสดุ จะสามารถสังเกตุเห็นถึงคราบรอยเปื้อนนั้น กำลังมีการขยายตัว และเริ่มขยายเป็นวงกว้าง รวมทั้งซึมลึกลงในระดับของชั้นใต้พื้นผิวกันเลยทีเดียว (ซึ่งเป็นจุดสังเกตุที่ดีให้กับพื้นที่ในการทำอาหารอย่างห้องครัว และห้องรับแขก ในเรื่องของคราบน้ำมัน น้ำอัดลม หรือคราบซอสนั่นเอง) 2. คราบอนินทรีย์ หรือ Inorganic stains โดยคราบส่วนมากในกลุ่มนี้ มักจะเกี่ยวข้องกับการทำปฏิกิริยา หรือการออกซิไดซ์กันของน้ำ ออกซิเจน และแร่ธาตุโลหะตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ธาตุเหล็ก (Iron) ซึ่งอยู่ภายในโครงสร้างของตัววัสดุอย่างพื้นหินธรรมชาติ หรือพื้นกระเบื้องบางชนิด โดยสาเหตุดังกล่าว มักจะปรากฏออกมาในรูปของ คราบสนิมสีน้ำตาลหรือแดง ซึ่งหากได้รับการขจัดคราบด้วยน้ำยาที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจยิ่งทำให้คราบใหม่เกิดขึ้นลึกเข้าไปในชั้นวัสดุได้ จนบางครั้งอาจยากต่อการขจัดคราบได้แบบทั่วๆ ไป หรือในบางกรณีก็จำต้องเปลี่ยนในจุดนั้นกันไปเลย ฉะนั้น “การทำความสะอาดแบบในทันที” จึงเป็นคำตอบของการป้องกันสาเหตุจากการเกิดคราบต่างๆ ได้ดีที่สุด แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะไม่ค่อยรับรู้ในช่วงเริ่มต้นของการสะสมของคราบนั่นเอง ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากการ... * หลุดร่อนของชั้นเคลือบผิวที่เกิดจากการสัญจรอยู่เป็นประจำ * การทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี * หรือไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ทั้งหมดนี้ จึงมักเป็นสาเหตุเบื้องต้นให้คราบสกปรกต่างๆ เข้าไปสะสมฝังแน่นอยู่ตามรูพรุนได้เป็นจำนวนมาก ทั้งคราบด่างดำ, สีไม่สม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งอาการช้ำน้ำ (ผลพวงจากอัตราการสะสมของคราบสกปรกเหล่านั้น ทำให้โมเลกุลของน้ำไม่สามารถระเหยออกมาได้ตามปกติ) และซ้ำร้ายเมื่อปล่อยไว้นานวัน อาจเป็นสาเหตุต่อการเสื่อมสภาพของโครงสร้างก่อนอายุขัยได้ในที่สุด จึงทำให้ในทางฝั่งยุโรป และทาง HG Thailand จึงแนะนำให้คุณเจ้าของบ้านทำการปกป้อง และดูแลวัสดุอย่างพื้นบ้านให้ยังคงความสวยงาม และมีความยั่งยืน ด้วยการเลือกใช้ * “ผลิตภัณฑ์เคลือบกันซึม” เป็นอันดับแรกก่อนเสมอ เพื่อเป็นการช่วยลดอัตราการสะสมของคราบหนักฝังแน่น และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นวัสดุได้ในระยะยาว * “ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นสูตรเฉพาะสำหรับพื้นผิวนั้นๆ” เพราะองค์ประกอบของพื้นแต่ละชนิด ต้องการการดูแลในแบบที่ถูกต้อง และไม่ทำลายวัสดุโดยเฉพาะชั้นเคลือบผิว ซึ่งจะช่วยคงความสวยงามของพื้นผิว และอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานที่สุด ref cleanfax.com sanding.co.uk slique.com.au expressflooring.com
ดีไซน์ “แถบป้องกัน”... ดับฝัน “โจรงัดเซฟ!!!”

October 20, 2021

ดีไซน์ “แถบป้องกัน”... ดับฝัน “โจรงัดเซฟ!!!”
ดีไซน์ “แถบป้องกัน”... ดับฝัน “โจรงัดเซฟ!!!” "การโดนตัดบานพับ... แล้วถูกงัดด้วยชะแลง" อาจเป็นเรื่องของเซฟแบบทั่วๆไป... แต่มิใช่กับ "ตู้เซฟกันไฟของ SentrySafe" เมื่อฟีเจอร์ไฮไลต์อย่าง “Pry-resistance hinge bar” กับกลายเป็น 1 ในคุณสมบัติเด่นในซีรี่ย์ดังกล่าว และเป็นที่ยอมรับกันเป็นอย่างมากกันในฝั่งอเมริกา และยุโรป เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานไปพร้อมๆ กัน ได้ถึง 2 จุด คือ 1. ทำหน้าที่เป็นตัวล็อคให้กับเซฟอีกชั้นหนึ่ง... แม้ตัวบานพับด้านนอกจะถูกตัดทำลายออกแล้วก็ตาม โดยจุดดังกล่าว ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแถบซี่สลับฟันปลา และวางเรียงต่อกันตลอดแนวระหว่างพื้นที่ของบานพับกับประตู เพื่อให้สามารถปิดรับกับแถบ Pry-resistance hinge bar ได้อย่างลงตัว ช่วยเพิ่มระดับการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ดีไซน์ "บานพับด้านนอก" ช่วยแก้ปัญหา Pain Point และตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด เมื่อความสะดวก และความคล่องตัวนั้น ยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อประสบการณ์จากการใช้งานตู้เซฟด้วยเช่นกัน การติดตั้งบานพับไว้ด้านนอก จึงช่วยให้องศาในการเปิด-ปิดตู้เซฟ สามารถทำได้เกือบ 180 องศา ซึ่งตอบโจทย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่มีลักษณะการใช้งานอยู่เป็นประจำนั่นเอง ดีไซน์ “แถบป้องกัน” หรือ Pry-resistance hinge bar... จึงนับเป็นอีกหนึ่งในคุณสมบัติ “การกันขโมย” ของตู้เซฟกันไฟดีๆ... ที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด! Sentrysafe ตู้เซฟคุณภาพสูงจากอเมริกา https://www.naradee.com/SENTRYSAFE
How to remove mould from the bathroom

July 04, 2021

How to remove mould from the bathroom
Black mould in your bathroom | How to remove mould from the bathroombathroom Still not found a solution for removing mould in the bathroom? Fortunately, this very common problem can be easily solved, with the right solution that is! Learn everything about what causes mould and the best tips for both removing and preventing black mould in the bathroom and in the shower.* What causes mould?* 3 tips for preventing mould in the bathroom* Bathroom and shower mould removal* 3 household tips for removing mould in the bathroom* HG against mould in the bathroomWhat causes mould?  Mould grows best in damp areas, such as the bathroom and kitchen, but also in cellars and sheds. Moulds develop where there is lots of condensation from warm air in combination with little or no ventilation.For example, black mould in the bathroom caused by hot steam that floats down onto tiles, grout and windows after showering. In addition to the bathroom, the kitchen is also a favourite place for mould to grow due to the hot steam when cooking and insufficient extraction.  3 tips for preventing mould in the bathroomNo problem with mould in the bathroom but you want to prevent it from forming? Below are a few tips for preventing mould.1. Warm up the bathroom before showeringIf you have a heater in your bathroom, this is ideal to prevent black mould in the bathroom, shower or ceiling. Turning on the heating before showering means less condensation will form on the warm walls and this greatly reduces the chance of mould in the shower and in the bathroom and therefore also the need for using a bathroom mould remover. 2. Ensure good ventilation in the bathroom after showeringEven though you should warm up the bathroom before showering, it is important to ventilate well afterwards to get rid of all the moisture. And if you have a fan in the bathroom, make sure to use it during and after showering to help prevent mould in the shower. The moisture will not remain in the air and the chance of black mould in the bathroom is reduced. 3. HG natural stone protectorDo you have marble or other calciferous natural stone in the bathroom? Then you can use HG natural stone protectorto prevent mould in the bathroom. This natural stone protector seals and protects marble and other natural stone against water (stains, dirt and limescale as well) penetration. This also reduces the chance of mould forming.  Bathroom and shower mould removalYou can try some of the various website tips on how to remove black mould in bathrooms, such as soda and bleach. Keep reading to find out the best way to use these products in the fight against filthy mould!  3 household tips for removing mould in the bathroomTry the following methods to prevent and remove mould in your home.1. SodaYou can try using soda as a bathroom mould remover. Dissolve 6 grams of soda in 1 litre of hot water and pour it over the black mould in the bathroom, or use a brush. Then be sure to rinse well with clean water. 2>2. Vinegar as a bathroom mould removerA quite well-known household remedy for removing mould in the bathroom is vinegar. Apply it undiluted with a cloth or sponge and leave it to work for a short time. Rinse the surface well to ensure the vinegar smell is rinsed away.3. Diluted bleachDilute 25 millilitres of bleach in 1 litre of water and dab the mould areas with a saturated sponge. Repeat this method until you get the desired result. Be careful that the beach mixture does not damage the surface! Have you tried the above methods and were they too much work or you did not get the desired result? Then try one of the special bathroom mould removers form HG specially developed to remove mould from the bathroom quickly and easily.  HG against mould in the bathroomHG mould spray is the number one ideal product for simple, fast and thorough mould removal. This bathroom mould remover eliminates all moulds, making filthy black stains disappear. HG mould remover foam spray has a unique foaming action which means the foam remains in place longer for better saturation. The foam spatters less and the smell is less penetrating.Mould, damp or weather stains often appear on the silicon seal between the bathtub and the tiled wall, in the shower cubicle or on plaster. Both HG mould removers are the perfect and easy solution.
HG Tips : เรื่อง "ความชื้น" อย่าปล่อยผ่าน... ถ้าไม่อยากให้บ้านป่วย!!!

May 14, 2021

HG Tips : เรื่อง "ความชื้น" อย่าปล่อยผ่าน... ถ้าไม่อยากให้บ้านป่วย!!!
HG Tips : เรื่อง "ความชื้น" อย่าปล่อยผ่าน... ถ้าไม่อยากให้บ้านป่วย!!! . ปริมาณความชื้นสะสมที่มีมากเกินไปภายในบ้าน อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ในระยะยาวนะรู้ป่าว!!! โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดทั้งอาการหอบหืดกำเริบ และยังทำให้เกิดสารก่อภูมิแพ้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา ไรฝุ่น เชื้อก่อโรคต่างๆ . แก้ไขอย่างไรดีล่ะ? . 6 วิธีการลดความชื้นสะสมภายในบ้าน เพื่อสุขภาพของเราและบ้านที่ดีกัน (1) จัดการเรื่องการระบายอากาศในห้องต่างๆ (2) ติดตั้งเครื่องดูดความชื้น ช่วยแก้ปัญหาได้ดี (แต่อาจใช้งบประมาณที่มากพอสมควร) (3) วางต้นไม้ให้ถูกที่ สามารถช่วยลดเรื่องฝุ่น หรือมลพิษภายในบ้าน (4) เปิดรับแสงแดดบ้าง และให้อากาศมีการถ่ายเทที่สะดวก (5) ใช้วัสดุดูดความชื้นที่มีอยู่ภายในบ้าน เช่น ถ่านไม้ เกลือ หรือข้าวสารมาใส่ในถุงผ้าไม่ก็ภาชนะที่ระบายอากาศได้ (6) ใช้ผนังชนิดทนชื้นทนรา . และเพื่อให้การลดความชื้น สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิถาพที่สูงที่สุด เราขอแนะนำ “เอชจี กล่องดูดความชื้น” ที่มาพร้อมสารดูดความชื้นปริมาณ 450 กรัม . ใช้สำหรับดูดความชื้นในบริเวณที่มีความชื้นสูง อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเติบโตของเชื้อรา หรือกลิ่นอับ ฯลฯ . กล่องดูดความชื้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ - ส่วนเก็บเม็ดดูดความชื้น (อยู่ด้านบน) ออกแบบมาให้สัมผัสกับอากาศเพื่อดูดซับความชื้นได้ดี และมีผนังโปร่ง 2 ชั้น กันไม่ให้เม็ดดูดความชื้นหกออกมา - ส่วนกักของเหลว (อยู่ด้านล่าง) ใช้รองรับของเหลวที่เกิดจากการทำงานของเม็ดดูดความชื้น มีรูปทรงขนาดสูง ช่วยให้เก็บของเหลวได้ปริมาณมาก, กันของเหลวหกเลอะ และสะดวกเวลาเทของเหลวทิ้ง . สารดูดความชื้น มีรูปร่างทรงกลม ประสิทธิภาพในการดูดความชื้นสูงกว่าสารดูดความชื้นทั่วไปถึง 1.5 เท่า ปริมาณ 450 กรัม ใช้ได้นาน 2-3 เดือน (ขึ้นอยู่กับปริมาณความชื้น) สำหรับพื้นที่ขนาด 40 ลูกบาศก์เมตร (ขนาดห้องกว้างประมาณ 4 เมตร ยาว 4 เมตร, สูง 2.5 เมตร)
ปัญหาคาใจ “ทำ ไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรก ง๊าย ง่าย”

November 20, 2020

ปัญหาคาใจ “ทำ ไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรก ง๊าย ง่าย”
     “เอชจี มีครบ”จบปัญหาคาใจ“ทำไม๊...ตู้อาบน้ำสกปรกง๊ายง่าย” 1. “คราบน้ำ -คราบสบู่” ที่เกาะแน่นติดกระจกและวัสดุต่างๆ 2. “คราบราดา” ที่เกิดขึ้นช้า ๆ ตามรองยาแนวและแนวซิลิโคน 3. ยังขัดล้างไปไมทันไร...ก็กลับเข้าวังวนนี้ใหม่ทั้งในข้อ 1 และข้อ 2
ซึ่งนั้นหาใช่เรื่องทีดูผิดแปลกแต่อย่างใด เพราะ...“หากการดูแลผิวพรรณที่ดี...มิได้จบลงเพียงแค่การ ฟอกสบู่ อยู่เช่นใด...ในเรื่องของ “ตู้อาบ
น้ำ” ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น! ”  1. “คราบนํ้า -คราบสบู่”  สู่การขจัดคราบในระดับรูพรุนแม้จะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าเจ้าคราบต่าง ๆ อันเกิดขึ้นได้จากทั้งการตกค้างการสะสมและการหมักหมมอยู่เป็นเวลานาน(บ้างทิ้งไว้เป็นสัปดาห์ บ้างก็ว่าเกือบแรมเดือน) จนมันระเหยแหงติดกับพื้นผิวของวัสดุอยู่ซ้ำ ๆ ยอมส่งผลให้สารประกอบทางเคมีที่ไม่ชอบน้ำบางชนิด เข้าไปติดลึกสะสมได้ถึงในระดับรูพรุน (porous) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การทำความสะอาดแบบที่เรียกว่า Deepcleaning นั้นอาจต้องถูกทำกันแบบซ้ำ ๆ วนอยูอยางนั้นหลายๆรอบ จึงจะสามารถลอกออก หรือขจัดคราบสกปรกเหล่านั้นได้อย่างหมดจด (สามารถสังเกตุเห็นได้จากคราบสบู่จนขึ้นฝ้าตามกระจกอาบนํ้าหรือแม้กระทั่งจากคราบขาวหินปูนที่บริเวณของหัวก๊อกนํ้านั่นเอง)       ดังนั้นการขจัดคราบต่าง ๆ ตามลักษณะที่ปรากฏ ตั้งแต่คราบท่ียังดูอ่อน ๆ จนกระทั่งคราบมีการติดสะสมฝังแน่นด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับระดับความเข้มข้น (ผสมกับนํ้าเปล่า)อย่าง“เอชจีบลู” นั้นนอกจากจะช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ได้อย่างหมดจดแบบตรงจุดได้แล้วยังมีคุณสมบัติในการไม่ไปทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนอีกด้วย (ซึ้งนํ้ายาทั่วไปอาจมีความรุนแรงจนไปทำลายในจุดนี้ได้) ส่วนบ้านใดที่มีการทำความสะอาด และดูแลสุขอนามัยภายในห้องนํ้าอย่างเป็นประจำอยู่แล้วการใช้งานร่วมกับ “เอชจี สเกล อะเวย์ ” ก็นับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะด้วยคุณสมบัติเฉพาะแบบโฟมสเปรย์นี่เอง ซึ่งนอกจากการใช้งานที่สะดวกแล้วยังเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับพื้นที่ในแนวตั้ง (ตัวผนังหรือตู้อาบนํ้า ) ทั้ง ยังเป็นเหตุผลสำคัญของการช่วยลดคราบหนักสะสมท่ีอาจเกิดข้ึนได้เป็นอย่างดีอีกด้วยและนับได้ว่าทั้ง 2 ตัวนี้ สามารถจัดเปนชุดพื้นฐานให้กับการทำความสะอาดคราบนํ้า คราบสบู่หรือคราบหินปูนต่าง ๆ ภายในห้องนํ้า โดยเฉพาะกับตู้อาบนํ้าและสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ในระดับของคราบที่ขจัดออกได้ยากนั่นเอง “เอชจี บลู”      + มีความเข้มข้นสูง (ผสมน้ำในอัตตราส่วน 1 ต่อ 10 )      + หากเจอคราบหนัก สามารถเพิ่มระดับความเข้มข้นได้ตามลักษณะของคราบที่ปรากฏ      + ใช้ได้กับทั้งคราบ คราบน้ำ คราบหินปูน คราบเหลืองสุขภัณฑ์      + ไม่ทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนของตูอ้าบน้ำ “เอชจี สเกล อะเวย์” + ด้วยขวดแบบสเปรย์ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ       + ด้วยคุณสมบัติของโฟมสเปรย์ จึงเหมาะกับพื้นท่ีในแนวตั้งอย่างแนวผนังหรือตู้อาบน้ำ + ช่วยลดการสะสมของคราบหนักได้เป็นอย่างดี       + ไม่ทำลายร่องยาแนวและซิลิโคนของตูอ้าบน้ำ 2. “คราบราดำ” ภัยเงียบสุดสำคัญที่มักสะสมอยู่ตามร่องยาแนวและแนวซิลิโคน       จากข้อมูลทางการศึกษาเคยมีการตรวจพบว่า มีเจ้า "เชื้อราดำ" จำนวนรวมกว่า 40 สายพันธุ์บนโลกซึ่งนอกจากจะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ทั้งตามผนังห้องน้ำ ร่องยาแนว หรือตามห้องครัวแล้วยังพบว่าะวกมันมีการแพร่กระจายของสปอร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Toxic Black Mould" อันนับเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในบางกรณีได้เลยทีเดียว       จึงทำให้ในวงการขจัดคราบราดำในกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะในฝั่งของทางยุโรปที่พบเจอเชื้อราในกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำนั้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารในกลุ่ม Chlorine bleach หรือ"เอชจี โมลด์ สเปรย์" ซึ่งมีฤทธิ์ในการ "ฆ่า" (destoy) กลุ่มเชื้อราดังกล่าวได้ถึงในระดับของสปอร์ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้เพียงน้ำส้มสายชู หรือ เบคกิ้งโซดา เพราะจากการทดสอบของสารทั้งสองชนิดนี้กลับมีคุณสมบัติเพียงแค่การ "ยับยั้ง" (Inhibits) การแพร่กระจายของเจ้าเชื้อราดำเท่านั้นเอง 3. ยังขัดล้างไปไม่ทันไร...ก็กลับเข้าวังวลนี้ใหม่อีกแล้วหรอเนี๊ยยย!!!       หากเปรียบความหมองคล้ำ-คราบไคล เป็นดั่งคราบน้ำ-คราบสบู่ หรือการเกิดสิว ขึ้นฝ้าคล้ายดั่ง คราบหินปูนสะสม ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่เกิดจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ สะสม จนอาจเกิดการอุดตันฝังแน่นอยู่ในรูขุมขน (รูพรุน) ที่ยากจะดูแลได้       "หากการดูแลผิวพรรณที่ดี...มิได้จบลงเพียงแค่การฟอกสบู่ อยู่เช่นใด...ในเรื่องของ"ตู้อาบน้ำ"ก็คงเป็นเช่นนั้น!" จึงนับเป็นประโยคโปรยจากข้างต้น และดูตรงกับการนำไปสู่คำตอบสุดท้ายของในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การทาด้วยครีมโลชั่น หรือ "การเคลือบผิวให้กับวัสดุ"       เพราะไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการตกหล่น หรือการละเลยในขั้นตอนนี้ไปมากน้อยเพียงใดก็ย่อมส่งผลต่อพื้นผิวของวัสดุนั้น ๆ ให้กลับมาเป็นแหล่งสะสมของคราบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในบริเวณของตู้อาบน้ำ ผนังฉากกั้น หรือร่องยาแนวต่างๆ       ดังนั้น การปกป้องผิวพรรณให้กับตู้อาบน้ำและวัสดุต่าง ๆ เพื่อไม่ให้กลับไปเกิดปัญหาของคราบสะสมหนักและการทำความสะอาดแบบธรรมดาที่ต้องใช้เวลานานนั้น ก็คือ การเคลือบผิวด้วยผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษที่เป็นShower protector โดยเฉพาะอย่าง "เอชจี ชาวเวอร์ ชีลด์" สำหรับตู้อาบน้ำและผิววัสดุต่าง ๆ หรือ"เอชจี เคลือบยาแนว" ที่สามารถซึมลึกได้ถึงในระดับรูพรุน โดยทั้งสองมีคุณสมบัติในการป้องกันการยึดเกาะของสารประกอบที่มักจะตกค้าง รวมทั้งความเป็นเบสจากทั้งคราบน้ำหรือคราบสบู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ       ซึ่งนอกจากจะช่วยให้การทำความสะอาดสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพให้พื้นผิวของวัสดุ สามารถสังเกตุเห็นได้ถึงความสะอาดใส หรือมีความแวววาวมากยิ่งขึ้น เมื่อลองมองผ่านกระจกอันเป็นฉากกั้น หรือหัวก๊อกน้ำที่กำลังล้อกับแสงไฟวิบๆวับๆ อยู่ในทุกครั้งที่ต้องเข้าห้องน้ำนั่นเอง
Concrete dust removal | Best tips for how to remove cement dust

October 02, 2020

Concrete dust removal | Best tips for how to remove cement dust
Removing cement dust from, for example, ceramic or cement tiles can be a difficult task. Cement dust is created when you apply grout to floor or wall tiles, because a thin layer always remains. This leaves a dull layer on the new floor or wall. We have a few tips for concrete dust removal and effective ways to prevent it. * What is the best way to remove cement dust? * Three good ways for cleaning concrete dust * HG is thé cement dust removal solution * What is the best way to remove cement dust? It is important to clean cement dust off of tiles as quickly as possible, because the longer you leave it, the more difficult concrete dust removal becomes.

Clean up concrete dust immediately using lukewarm water and a small sponge. 
 Three good ways for cleaning concrete dust You can find quite a few tips for concrete dust removal on various forums that you might want to try. 1. Tea towel
When the cement dust is still quite fresh you can try cleaning the concrete dust with a tea towel. Rub the surface of the tiles quite hard with a dry tea towel. This may remove the cement dust, but it is rather hard work and also takes quite a long time. 2. Scrapers
You can also try scraping tools. You must be very careful not to damage the tiles if you choose this method of concrete dust removal. 3. Vinegar mixture
Mix equal parts of vinegar and water (50/50). This acidic mixture works well for cleaning concrete dust. This mixture can damage your tiles, so we recommend that you test it on a surplus tile first. Also be cautious with acids on marble and other calciferous natural stone. Consult an expert for advice if necessary. Do you prefer a safer, easier and less time-consuming concrete dust removal method? Then try one of the HG solutions developed especially for concrete dust removal.
 HG is thé cement dust removal solution HG has various products in the assortment for safe cement dust removal from many different surfaces. Is the cement dust on marble or other calciferous natural stone, concrete or epoxy tiles containing natural stone, such as granite or marble composite? Then use HG natural stone cement & lime film remover (HG product 31).

We also have HG cement grout film remover (HG product 11) in our assortment for removing cement dust from all types of porous and non-porous ceramic tiles and flagstones. It is also suitable for cleaning concrete dust on non-calciferous natural-stone types, such as Norwegian slate, granite and quartzite. The unique aspect of this product is that it dissolves cement from the tile surface but not the cement from the grouting. The grout is even strengthened.

Is it stubborn cement and mortar dust on porous and non-porous tiles? Then we advise HG cement, mortar & efflorescence remover (HG product 12). It is also suitable for non-calciferous natural stone.
Tips for removing sweat smell from clothes

September 16, 2020

Tips for removing sweat smell from clothes
How to get sweat smell out of clothes | Tips for removing sweat smell from clothes clothing After washing your favourite shirt several times, you think you have finally gotten the sweat smell out. Unfortunately, after ironing or wearing your shirt again for a short time, the sweat smell is back. Despite washing it several times, the smell is still there and you ask yourself: why? In this article we will explain why and give you a few tips on how to get this sweat smell out of clothes and keep it out. * Why does sweat smell remain in clothes? * 3 tips to prevent sweat smells in clothes * 2 tips on how to get sweat smell out of clothes * Remove sweat smell from clothes with HG Why does sweat smell remain in clothes? The sweat smell in clothes that comes back as soon as the garment is ironed or worn again is caused by butyric acid.
 Everyone sweats during sports or just daily activities. As soon as the sweat dries, the so-called butyric acid, which is excreted by the body during perspiration, remains. The butyric acid continuously produces stench molecules and it is most active when the garment is warm. So when it is ironed or worn. If the butyric acid is not removed completely during washing, the sweat smell in clothes will return.

Sweat smell in clothes and other textiles can be caused by damp laundry that is left too long in the sports bag, laundry basket or in the washing machine.
 3 tips to prevent sweat smells in clothes Of course you would prefer to prevent sweat smells in your clothing. Be sure to clean your washing machine regularly so no bacteria remain. And we recommend the following if you sweat quickly and profusely.  1. Wash your armpits regularly
 If you sweat profusely, we recommend washing your armpits at least once a day. This way you remove bacteria that cause the sweat smell and you prevent the smell of sweat getting in your clothes. 2. Only wear clothes 1 day
 Do not wear your clothes more than one day and wash them more often. This prevents butyric acid from building up in your clothing. Deodorant is not an option when it comes to covering up sweat smells in clothes, because the deodorant will disappear from the clothes after time. And the sweat smell will only get worse.  3. Use antiperspirant 
If you really have a problem with sweat smells in your clothes, we recommend using an antiperspirant deodorant instead of regular deodorant. Antiperspirants contain substances that inhibit the sweat glands so there will be less perspiration (and therefore less butyric acid) in your clothes.
 2 tips on how to get sweat smell out of clothes You can try vinegar and soda to remove sweat smell in textiles as well as prevent them. 1. Soda
 Leave the garment to soak in soda and water for at least an hour and then wash it in the washing machine. The various websites do give some contradicting advice: some say “minimum one hour”, others say “overnight” in soda. In any case, be careful with coloured laundry as soda can cause discolouration.  Soda will also damage silk and wool.  2. Vinegar
 Do not let the smell of vinegar scare you! Soak your sweaty clothes in a bucket with vinegar before washing. Make sure the garment is completely submerged and let it soak for at least an hour (overnight is even better) and then wash it in the washing machine.  Have you tried the tips above on how to get sweat smell out of clothes and was it too much work or it did not have the desired effect? Then try the HG solutions developed especially for removing sweat smell from clothing and other textiles.
 Remove sweat smell from clothes with HG HG has developed a product for removing sweat odours and stains from your clothing:  HG detergent additive against unpleasant odours in sports clothing. This product is based on a highly effective formula that efficiently removes stench molecules that have penetrated deep into the fibres.

Sweat smell in (sports)clothes and other textiles can be caused by damp laundry that is left too long in the sports bag, laundry basket or in the washing machine. Main detergents are not always able to solve this problem sufficiently, but you can with this additive.
How to remove sticker residue

September 16, 2020

How to remove sticker residue
How to remove sticker residue: the best tips for removing stickers Stickers can be stuck on so tight that it simply isn't possible to remove them. You end up pulling off part and you're left with those ugly sticker and glue residues that only become worse when you try rubbing them off. However, you will succeed with the following tips! * Removing stickers: Can it be prevented to remove sticker residue? * Alternative ways to remove sticker residue * HG, the most effective way of removing a sticker Removing stickers: Can it be prevented to remove sticker residue? These days many of the products you purchase have a sticker to prevent theft. Windscreens need to have a visible toll sticker (remember when you drove to Switzerland) or a sticker that shows whether the car complies with certain environmental requirements and is allowed to enter the city centre.

There are many other examples of where you are confronted, against your will, with stickers and we all know how difficult it is to remove sticker residue from plastic or glass. Stickers can also be used as decorations, particularly by children who love to cover their bedroom door in stickers from top to bottom. To avoid having to remove every single one, you could put up a special board in the bedroom with the agreement that stickers go on that board and not on the door!
 Alternative ways to remove sticker residue HG sticker remover has been developed especially for removing stickers and also to remove sticker residue without any difficulties. This product works fast and conveniently, but you can also try one of the following household tips we found on the internet. * Nail polish remover
 Put a small amount of nail polish remover on a sponge or kitchen towel and rub it onto the sticker until it has gone completely. 
* Turpentine
 Carefully rub the glue residues with the turpentine, leave to absorb and rub the dissolved residues away with a dry cloth.
 * Peanut butter 
Cover the entire sticker with a thumb of peanut butter. Leave to absorb and you will be able to remove the sticker residue. This method does not work on plasticised stickers
 HG, the most effective way of removing a sticker As we said before, HG sticker remover has been developed especially to remove sticker residue without any difficulties. However, this product can also be used to remove rubber adhesive, adhesive tape, tar splashes, lubricant stains, oil, heel marks and other problems from nearly all surfaces. Make sure you use HG sticker remover neat and make sure you leave it to absorb.

BECOME A MEMBER

Icon Phone Icon Mail Icon Line
Add to Cart