ARTICLES

เมื่อพูดถึงธุรกิจร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็กก็ตาม หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ คือ การจัดการเงินสด เพราะธุรกิจประเภทร้านอาหาร มักมีกระแสเงินสดหมุนเวียนเข้าออกเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม การมีเงินสดจำนวนมากหมุนเวียนในร้านอาหารนั้น ย่อมหมายถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ทั้งจากการโจรกรรม การยักยอก หรือความผิดพลาดในการจัดการเงินสด ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจได้ ดังนั้น การมีระบบรักษาความปลอดภัยในการจัดเก็บเงินสดที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของร้านอาหารเผยเหตุผล ! ทำไมร้านอาหารควรมีตู้เซฟเล็ก ๆ ไว้เก็บเงินสดหนึ่งในวิธีจัดการเงินสดในร้านอาหารที่นิยมกัน คือ การติดตั้งตู้เซฟเล็กเก็บเงินสด หรือตู้เซฟแคชเชียร์ ซึ่งมีจุดประสงค์หลักเพื่อรักษาความปลอดภัยของเงินสด และป้องกันการสูญหาย หรือถูกขโมย โดยวิธีนี้ได้รับการยอมรับ และนำมาใช้แล้วในร้านอาหารทั่วโลก เนื่องจากประโยชน์ และความคุ้มค่าต่าง ๆ ที่ได้รับ โดยมีเหตุผลหลักดังต่อไปนี้ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมการเก็บเงินสดไว้ในลิ้นชัก หรือบนเคาน์เตอร์ อาจเสี่ยงต่อการถูกขโมย ยักยอก หรือสูญหายได้ง่าย ดังนั้น การมีตู้เซฟเล็กที่ถูกออกแบบมาให้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง และป้องกันการสูญหาย จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทั้งภายนอก และภายในร้านได้เป็นอย่างดีสร้างความมั่นใจ และความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าการมีตู้เซฟเล็กภายในร้าน แสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการรักษาความปลอดภัยของเงิน ลูกค้า และสินทรัพย์ของร้านอาหาร ส่งผลให้ลูกค้ามีความมั่นใจ และไว้วางใจในการใช้บริการมากขึ้น ทำความรู้จัก “ตู้เซฟเล็ก” ที่นิยมใช้กันในธุรกิจร้านอาหารตู้เซฟเล็ก เป็นตัวช่วยที่มีความสำคัญสำหรับการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินมีค่า เงินสด หรือข้อมูลสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะในธุรกิจร้านค้า สำนักงาน หรือร้านอาหาร ที่มีความจำเป็นในการจัดเก็บเงินสดเป็นประจำ ซึ่งในส่วนนี้ Naradee จะขอมาแนะนำ Deposit Safe ตู้เซฟยอดนิยม ที่เจ้าร้านอาหารทั่วโลกเลือกใช้ในปัจจุบัน   Deposit Safe หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Drop Safe คือ ตู้เซฟที่มีช่องเจาะบริเวณด้านบน หรือด้านหน้าของตู้ เพื่อให้พนักงานสามารถหยอดเงินสด หรือซองเอกสารเล็ก ๆ ลงไปในตู้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตู้ ซึ่งจุดประสงค์หลัก ๆ ของตู้เซฟประเภทดังกล่าว ได้แก่ ลดความเสี่ยงจากการถูกขโมย เนื่องจาก ไม่สามารถเปิด หรือนำเงินออกจากตู้ได้ง่าย ๆควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงเงินสด โดยมีเพียงผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเปิดตู้ และนำเงินออกมาได้ช่วยจัดระเบียบ และบันทึกยอดเงินสดประจำวัน เนื่องจาก เงินทั้งหมดจะถูกหยอดเก็บไว้ในตู้เดียวกัน เหมาะสำหรับธุรกิจร้านค้า ที่มีพนักงานหลายคนหมุนเวียนการทำงานในแต่ละวัน หรือร้านอาหาร SentrySafe ตู้เซฟนิรภัย มั่นใจในความปลอดภัย ระดับสากลNaradee ขอแนะนำแบรนด์ SentrySafe ผู้ผลิตตู้เซฟเล็ก ที่มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับสากล จากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะตู้เซฟเก็บเงินสด (แคชเชียร์) ที่ถูกออกแบบมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยสูงสุด โดยมีคุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ ดังนี้ ฟังก์ชันดีไซน์ในระดับ Hi-End กับ DIGITAL LOCK ทํางานด้วยระบบล็อกดิจิตอล พร้อม Delay mode ฟีเจอร์หน่วงเวลา เมื่อกดรหัสผิดพลาดANTI-FISH HOPPER ดีไซน์ป้องกันการล้วงขโมยทรัพย์สินจากช่องใส่เงินANTI-DRILL DOOR บานประตูถูกออกแบบมา เพื่อป้องกันการเจาะทําลายSTEEL CONSTRUCTION โครงสร้างผลิตจากเหล็กกล้า แข็งแรง ทนทาน3 LIVE-LOCKING BOLTS ปลอดภัยด้วยระบบล็อกกลอนสลัก 3 ตําแหน่งBOLT DOWN HARDWARE มาพร้อมอุปกรณ์ยึดพื้น หรือผนัง เพื่อป้องกันการยกย้าย แนะนำ 3 ตู้เซฟแคชเชียร์ กับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในหัวข้อนี้ Naradee จะมาแนะนำ 3 รุ่นตู้เซฟแคชเชียร์จาก SentrySafe ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารขนาดเล็ก หรือใหญ่ พร้อมทั้งบอกคุณสมบัติเด่น ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บรักษาเงินสดของคุณ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย   1. SentrySafe รุ่น UC-039K  ตู้เซฟแคชเชียร์ขนาดเล็ก ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บเงินสดโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก ซึ่งตู้เซฟนี้มีฟังก์ชันเด่น ๆ คือ ปลดล็อกแบบกุญแจคู่ เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น (มีกุญแจมาให้ 2 ดอก)บานพับด้านล่าง เปิดใช้งานได้กว้างโครงสร้างเหล็กแข็งแรง มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลประตูออกแบบมาเพื่อป้องกันการเจาะ งัดแงะ และการใช้ตะขอเกี่ยวสามารถยึดตู้เซฟเข้ากับพื้น (มีอุปกรณ์ยึดมาให้)น้ำหนัก 13.2 กิโลกรัม และจุได้ถึง 10.86 ลิตร    2. SentrySafe รุ่น DH-074E  ตู้เซฟเล็กทำงานด้วยระบบดิจิตอล เหมาะสำหรับเก็บเงินสด หรือของมีค่าต่าง ๆ แบบจัดเก็บวันต่อวัน มีขนาดกะทัดรัด จัดวางง่าย นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป เช่น คาเฟ่ ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น โดยตู้เซฟรุ่น DH-074E มีคุณสมบัติเด่น ดังนี้ ระบบปลดล็อกด้วยรหัสอิเล็กทรอนิกส์ สามารถตั้งเองได้หน่วงเวลาหากรหัสผิดพลาด 3 ครั้งช่องเก็บของระบบลูกปืน (Ball-bearing)โครงสร้างผลิตจากเหล็กแข็งแรง ทนทานประตูออกแบบมาเพื่อป้องกันการเจาะ หรือการงัดแงะสามารถยึดตู้เซฟเข้ากับพื้น (มีอุปกรณ์ยึดมาให้)น้ำหนัก 43.1 กิโลกรัม และจุได้ถึง 26.64 ลิตร    3. SentrySafe รุ่น DH-134E  ตู้เซฟแคชเชียร์ขนาดใหญ่ ภายในกว้าง เก็บของได้เยอะ ดีไซน์โมเดิร์น และทันสมัย ปลดล็อกด้วยระบบดิจิตอล เหมาะสำหรับใช้เก็บเงินสด หรือของมีค่าต่าง ๆ ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป เช่น คาเฟ่ ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น โดยตู้เซฟรุ่น DH-074E มีคุณสมบัติเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้ ระบบปลดล็อกด้วยรหัสอิเล็กทรอนิกส์ สามารถตั้งเองได้หน่วงเวลาหากกดรหัสผิด 3 ครั้งช่องเก็บของระบบลูกปืน (ball-bearing)โครงสร้างผลิตจากเหล็กแข็งแรง ทนทาน มั่นใจในความปลอดภัยประตูออกแบบมาเพื่อป้องกันการเจาะ หรือการงัดแงะสามารถยึดตู้เซฟเข้ากับพื้น (มีอุปกรณ์ยึดมาให้)น้ำหนัก 54.9 กิโลกรัม และจุได้ถึง 44.4 ลิตร ทั้งนี้ หากคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารที่กำลังสนใจ หรือมองหาตู้เซฟเล็กคุณภาพดี เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บรักษาเงินสด และทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ในที่ร้านอาหารของคุณ ก็ขอแนะนำผลิตภัณฑ์จาก SentrySafe ที่ได้รับการรับจากมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล จาก USA โดยสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: Gun SafeShopee: Naradee StoreLazada:

แม่กุญแจ (Lock Key) อุปกรณ์ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับรั้วบ้าน อาคาร และสิ่งของขนาดเล็ก เช่น ใช้ล็อคประตูบ้าน ล็อคกระเป๋า ล็อครถจักรยาน และล็อคกับตู้เก็บของ เป็นต้น ซึ่งมีระบบความปลอดภัยแน่นหนา ทั้งจากวัสดุที่ใช้ รวมถึงฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่คอยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน และดีไซน์สวยงาม เข้ากับการตกแต่งในทุกมุมสำหรับใครที่ยังสับสน หรือยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับแม่กุญแจมากพอ บทความนี้ Naradee จะมาเผยให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างกุญแจระบบลูกปืน และกุญแจระบบสปริง เพื่อให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจ และเลือกซื้อกุญแจที่เหมาะกับการใช้งาน หากพร้อมแล้ว เราไปดูกันได้เลยเรื่องน่ารู้ ! แม่กุญแจระบบลูกปืน และกุญแจระบบสปริง ต่างกันอย่างไรหนึ่งในปัญหาสำคัญ ที่ชวนให้ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกสับสน เมื่ออยู่หน้าชั้นวางสินค้า คือ ความสงสัยว่ากุญแจระบบลูกปืน และกุญแจระบบสปริง แตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพราะมองแบบผิวเผินกุญแจแต่ละชนิด ล้วนมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันอย่างไรก็ตาม แม่กุญแจทั้ง 2 ประเภท จะมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจน โดยหลัก ๆ แล้วอยู่ที่ระบบการรักษาความปลอดภัย ราคา และความเหมาะสมในการใช้งานที่ต่างกันออกไป สำหรับจุดสังเกตความแตกต่างของกุญแจระบบสปริง และกุญแจระบบลูกปืน ได้แก่กุญแจระบบสปริงกุญแจระบบสปริง เป็นกุญแจที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจาก ขนาดที่กะทัดรัด ราคาถูก และน้ำหนักเบา เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย โดยฐานกุญแจมักจะทำจากเหล็ก หรือทองเหลือง ทำให้มีความแข็งแรง และทนทานต่อการถูกงัดแงะ หรือตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กุญแจระบบสปริง ค่อนข้างเปราะบางกว่าแม่กุญแจประเภทอื่น เมื่อโดนทุบ หรือใช้งานในสภาพอากาศเย็นจัดโดยระบบการล็อคของกุญแจระบบสปริง ผู้ใช้งานสามารถกดแม่กุญแจให้ล็อคได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียบกุญแจ เมื่อทำการปลดล็อค ลูกกุญแจจะเด้งออกจากแม่กุญแจทันที ด้วยเหตุนี้ แม่กุญแจระบบสปริงจึงเหมาะกับการล็อค เพื่อป้องกันบุคคลอื่นเข้าถึงทรัพย์สินสำคัญ มากกว่าการนำไปล็อคประตูบ้าน หรือล็อคตามจุดต่าง ๆ ภายในอาคาร เช่นตู้จดหมายตู้จดหมาย ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เต็มไปด้วยเอกสารสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บิลค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เอกสารภาษี รวมถึงจดหมายส่วนตัว ดังนั้น การใช้กุญแจระบบสปริง มาล็อคตู้จดหมายให้เรียบร้อย ก็จะช่วยให้เจ้าของบ้านมั่นใจได้ว่า เอกสารสำคัญยังอยู่ในตู้จดหมายอย่างครบถ้วนกระเป๋าเดินทางสำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ แนะนำให้เลือกกุญแจคล้องใส่รหัส ที่รองรับระบบ TSA เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางข้ามประเทศ นอกจากนี้ กุญแจระบบสปริง ยังเหมาะกับการล็อคกระเป๋าใส่เอกสารทั่วไป และกระเป๋าใส่แล็ปท็อปอีกด้วยล็อคเกอร์ล็อคเกอร์ เป็นอุปกรณ์ส่วนตัวที่เต็มไปด้วยข้าวของชิ้นสำคัญมากมาย ดังนั้น ควรเลือกซื้อกุญแจระบบสปริงที่มีคุณภาพ รวมถึงผ่านการทดสอบแล้วว่าแข็งแรง และทนทานต่อการงัดแงะ เพื่อป้องกันการถูกเปิดจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของ และดูแลทรัพย์สินส่วนตัวให้ปลอดภัย จากมือมิจฉาชีพกุญแจระบบลูกปืนสำหรับกุญแจระบบลูกปืน ส่วนใหญ่แล้วทำมาจากวัสดุคุณภาพดี อาทิ ทองเหลืองแท้ เหล็ก และอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ซึ่งทนความชื้น ฝน กรด และการกัดกร่อน ทั้งยังป้องกันการถูกงัดแงะ และป้องกันการเลื่อยกุญแจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ทนทานกว่ากุญแจระบบสปริง นอกจากนี้ กุญแจระบบลูกปืนยังมีระบบการล็อคที่แน่นหนา เพราะไม่ว่าจะล็อค หรือปลดล็อค ก็จำเป็นต้องเสียบลูกกุญแจไว้กับแม่กุญแจเสมอ ทำให้กุญแจระบบลูกปืน เหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคารอย่างยิ่ง โดยส่วนมากจะนำไปใช้ในบริเวณพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้ประตูหน้าบ้านบริเวณหน้าบ้าน ถือเป็นจุดเสี่ยงต่อการถูกบุกรุก โดยผู้ไม่ประสงค์ดีได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การนำกุญแจระบบลูกปืน มาล็อคประตูหน้าบ้าน ล้วนมีส่วนช่วยเพิ่มความแน่นหนาให้กับรั้วบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินในบ้าน จะปลอดภัยจากการถูกโจรกรรมอย่างแน่นอนประตูหลังบ้านจุดเสี่ยงอันดับหนึ่ง ที่โจรลักลอบเข้ามาในครัวเรือน คือ ประตูหลังบ้าน เพราะคนส่วนใหญ่ละเลยการล็อคประตูหลังบ้านให้แน่นหนา ประกอบกับประตูหลังบ้าน มักไม่มีสัตว์เลี้ยงเฝ้าอยู่ แต่ความเสี่ยงที่กล่าวมาจะหมดไป เพียงแค่นำกุญแจระบบลูกปืน มาล็อคบริเวณหลังบ้านให้เรียบร้อยแนะนำแม่กุญแจคุณภาพดี ทนทานต่อการงัดแงะ จาก Naradeeหลังจากที่ได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่า แม่กุญแจทั้ง 2 ประเภท มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควรซื้อกุญแจยี่ห้อไหนดี ถึงจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้าน และทรัพย์สินของคุณ Naradee ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจาก มีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกหลายรูปแบบ ที่สำคัญ ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียม ไม่ว่าจะนำไปล็อกอาคาร หรือสิ่งของสำคัญ ก็ปลอดภัยจากการถูกงัดแงะอยู่เสมอ โดยกุญแจระดับคุณภาพจาก Naradee มีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 5 รุ่น ดังนี้Master Lock รุ่น 1178D  แม่กุญระบบล็อคลูกปืนคู่ (Dual ball bearing) รุ่น 1178D เป็นกุญแจคล้องแบบตั้งรหัสได้ 4 หลัก โดยแป้นหมุนรหัสมีขนาดใหญ่ ทำให้สะดวกสบายต่อการใช้งานขณะสวมถุงมือ หรือใช้งานในที่แสดงสว่างน้อย นอกจากนี้ กุญแจรุ่น 1178D จากรุ่นโปรซีรีส์ (Pro Series) ยังมีระบบ Deadlock ช่วยป้องกันการงัด และการสะเดาะกุญแจได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานประกอบการ หรือหน่วยงานธุรกิจอย่างยิ่งMaster Lock รุ่น 6121DLJ  แม่กุญแจระบบล็อคลูกปืนคู่ (Dual ball bearing) รุ่น 6121DLJ ตัวกุญแจทำจากเหล็กกล้า (laminated steel) ซึ่งมีความแข็งแกร่งสูง และห่วงกุญแจทำจากเหล็กกล้าชุบแข็งผสมโบรอน (Hardended boron alloy) ตัวกุญแจ และรูกุญแจถูกหุ้มไว้อย่างดี เพื่อป้องกันความชื้น และสิ่งสกปรกจากสภาวะอากาศMaster Lock รุ่น 6850D  แม่กุญแจระบบล็อคลูกปืนคู่ (Dual ball bearing) รุ่น 6850D ตัวกุญแจ และกระบอกกุญแจทำจากทองเหลือง (Solid brass) ส่วนห่วงกุญแจทำจากโลหะผสมโบรอน (Boron alloy shackle) จึงเหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคาร และสถานประกอบการอย่างยิ่งMaster Lock รุ่น 4681EURTBLR  กุญแจคล้องระบบสปริงทีเอสเอ (TSA-accepted combination lock) รุ่น 4681EURTBLR สำหรับใช้งานกับกระเป๋าเดินทาง ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ได้มาตรฐานความปลอดภัย TSA สำหรับการเดินทางไปยังประเทศที่มีการตรวจสอบเข้มงวด โดยแม่กุญแจรุ่นนี้ ใช้ระบบล็อคด้วยกุญแจคีย์อะไลก์ (Keyed-aliked) ทำให้สะดวกในการเดินทาง ที่มีกระเป๋าสัมภาระหลายใบMaster Lock รุ่น 651EURD  แม่กุญแจรหัสระบบสปริง รุ่น 651EURD ฐานกุญแจทำจากทองเหลือง ตัวกุญแจทำจากเหล็กกล้าชุบแข็ง (Hardened Steel) ดีไซน์สวยงาม แข็งแกร่ง และทนต่อสภาวะอากาศ ทั้งยังสามารถตั้งรหัสส่วนตัวได้มากถึง 4 หลัก หมดกังวลเรื่องการพกกุญแจ ตอบโจทย์การใช้งานกับตู้ล็อคเกอร์ ห้องเก็บของ ประตูโรงรถ และประตูรถขนสินค้าเป็นอย่างไรกันบ้าง กับข้อมูลที่เรานำมาแชร์ในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกท่านได้เห็นความแตกต่าง ระหว่างแม่กุญแจระบบลูกปืน และแม่กุญแจระบบสปริงได้อย่างชัดเจน สำหรับใครที่กำลังมองหาแม่กุญแจคุณภาพดี และความปลอดภัยสูง สามารถเลือกซื้อแม่กุญแจจาก Naradee ไปใช้งานกันได้ตามความเหมาะสม หากสนใจสั่งซื้อสินค้า ติดต่อได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: Master KeyShopee: Naradee Store Lazada: Naradee StoreInbox: Naradee Store 

ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง มักจะเลือกอยู่อาศัยในคอนโดมากกว่าการอยู่บ้านเดี่ยว เนื่องจาก คอนโดมีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเมือง และเดินทางได้สะดวกมากกว่า ทั้งยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยด้านรูปแบบโครงการ และทำเลที่ตั้งแล้ว "ความปลอดภัย" ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกันเนื่องจาก ในปัจจุบันคนวัยทำงาน หรือนักธุรกิจหลายคน มีความต้องการในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือเก็บสะสมทองคำไว้เป็นสินทรัพย์ เพื่อนำมาขายเก็งกำไรในภายหลัง ทำให้มีสิ่งของมีค่า และเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่ต้องเก็บรักษาไว้จำนวนมาก เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือสัญญา หรือเอกสารที่เป็นความลับทางการค้า เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษาทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ การใช้ตู้นิรภัย หรือตู้เซฟคุณภาพดี จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัคคีภัย น้ำท่วม หรือการโจรกรรม ทำให้สามารถเก็บรักษาเอกสารสำคัญ และทรัพย์สินมีค่าได้อย่างปลอดภัยHow to เลือกตู้เซฟนิรภัยยี่ห้อไหน ถึงเหมาะกับชาวคอนโด ?Naradee ขอแนะนำ SentrySafe ตู้เซฟนิรภัยระดับสากล ที่มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับ Hi-end ผ่านการทดสอบป้องกันไฟจาก UL หรือ Underwriters Laboratories ซึ่งเป็นหน่วยงานทดสอบ และรับรองมาตรฐานสินค้าด้านความปลอดภัย จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดย SentrySafe ได้รับการทดสอบแล้ว ว่าทนความร้อนได้นาน 1/2 - 2 ชั่วโมง ในระดับอุณหภูมิสูงถึง 1,010°C ทั้งยังผ่านการทดสอบกันน้ำจาก Electrical Testing Laboratory (ETL) ว่าสามารถป้องกันเอกสาร และสิ่งของมีค่า จากเหตุน้ำท่วมได้นานถึง 72 ชั่วโมง ทั้งยังมีขนาดเหมาะสมสำหรับพื้นที่เล็ก ๆ ในคอนโดให้เลือกสรรทั้งนี้ การเลือกตู้เซฟนิรภัย ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น ขนาดของพื้นที่ ปริมาณเอกสาร และของมีค่า เป็นต้น เพราะตู้เซฟสามารถเก็บเอกสารสำคัญ และของมีค่าได้มากน้อยแตกต่างกันตามขนาด นอกจากนี้ ยังมีทั้งแบบกุญแจ และแบบดิจิทัล ให้เลือกใช้ตามความสะดวก ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไป แนะนำ 4 เซฟนิรภัย ที่เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดในคอนโดให้ทุกงานเอกสาร และทรัพย์สินมีค่าได้รับการจัดเก็บ และป้องกันไว้อย่างอุ่นใจ โดย Naradee ขอแนะนำ 4 ตู้เซฟนิรภัยรุ่นยอดฮิตจาก SentrySafe ที่เหมาะสำหรับวางในพื้นที่จำกัด อย่าง คอนโดมิเนียม ตอบโจทย์ด้วยฟังก์ชัน และดีไซน์ทันสมัย มีดังนี้   1. Fire/Water Chest รุ่น CHW30100  หีบเซฟ หรือเซฟหิ้วรุ่นนี้ ถูกออกแบบมาสำหรับเก็บรักษาเอกสารสำคัญ โดยมีระบบปลดล็อกด้วยกุญแจ สามารถเก็บเอกสารขนาด A4 ได้พอดี เหมาะสำหรับพนักงาน หรือนักธุรกิจ ที่ต้องการเก็บรักษาความลับ เช่น เอกสารสำคัญในองค์กร โดยโครงสร้างตู้เซฟ รุ่น CHW30100 ผลิตจากวัสดุเสริมความแข็งแรง มีคุณสมบัติกันไฟ และกันน้ำ ช่วยปกป้องเอกสาร และทรัพย์สินมีค่าจากภัยอันตรายต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย น้ำท่วม หรือแม้แต่ตึกถล่มได้ดี   2. Digital Fire/water Chest รุ่น CHW30300  หีบเซฟเก็บเอกสาร มีคุณสมบัติกันไฟ และกันน้ำเช่นเดียวกับรุ่น CHW30100 สามารถเก็บเอกสารขนาด A4 ได้อย่างพอดี ทั้งยังมีการติดตั้งระบบล็อกดิจิทัลแทนการใช้กุญแจ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น โดยไม่ต้องพกพากุญแจให้ยุ่งยาก นอกจากนี้ เซฟรุ่นดังกล่าวยังสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่จากภายนอกได้ สะดวกต่อการใช้งาน    3. Fire Safe รุ่น SF123CS  ตู้เซฟกันไฟ และกันน้ำรุ่นนี้มาพร้อมระบบล็อก 2 ชั้น ทั้งรหัสแบบปุ่มกด และกุญแจ ตัวเซฟมีการออกแบบโครงสร้างจากเหล็กกล้าเสริมความแข็งแรง สามารถทนแรงกระแทกได้ดี แม้ตกจากที่สูงถึง 4.5 เมตร นอกจากนี้ ยังมีสลักกลอนขนาด 1 นิ้ว มาให้ถึง 4 ตัว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตู้เซฟทั่วไปถึง 60% พร้อมแถบบานพับ เพื่อป้องกันการงัดแงะโจรกรรม รวมถึงภายในยังมีไฟ LED ช่วยส่องสว่าง และสามารถปรับระดับชั้นวางของได้ตามต้องการ   4. Digital Fire Safe รุ่น SFW205GPC  ตู้เซฟดิจิตอล รุ่น SFW205GPC ดีไซน์โมเดิร์น ทันสมัย สามารถวางตกแต่งเข้ากับพื้นที่ต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ตู้เสื้อผ้า ข้างเตียง หรือแม้แต่ตู้ Built-in ภายในคอนโดก็ตาม ซึ่งในส่วนของตัวโครงสร้างเซฟผลิตจากเหล็กกล้า ทำให้มีความทนทาน และแข็งแรง อีกทั้งยังมีแถบบานพับเสริม เพื่อป้องกันการโจรกรรม หรือการทำลายที่ประตู พร้อมทั้งติดตั้งระบบล็อก 2 ชั้น ทั้งรหัสแบบปุ่มกด และกุญแจ ช่วยให้เก็บรักษาอย่างปลอดภัยในระดับสากล นอกจากนี้ ภายในยังมีไฟส่องสว่าง เพื่อเพิ่มการมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น โดยสรุปแล้ว หีบเซฟ SentrySafe กันไฟ กันน้ำทั้ง 4 รุ่นนี้ ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการป้องกันอันตรายจากไฟ และน้ำ พร้อมทั้งมีคุณสมบัติเพิ่มเติมด้านความสะดวกสบาย และมีการออกแบบตกแต่งให้เหมาะกับพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของชาวคอนโดได้อย่างเหมาะสมแชร์ 2 วิธี ติดตั้งตู้เซฟนิรภัยในคอนโดยังไง ให้ปลอดภัย และแน่นหนาการติดตั้งตู้เซฟนิรภัยในคอนโด มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บรักษาทรัพย์สิน และเอกสารสำคัญแล้ว ยังช่วยป้องกันการโจรกรรม และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆดังนั้น การติดตั้งตู้เซฟอย่างถูกต้อง และแน่นหนา ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินของคุณ จะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด แต่การติดตั้งตู้เซฟในคอนโด ก็ควรพิจารณาถึงข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง ในส่วนนี้ Naradee ขอพาคุณไปดูวิธีการติดตั้งตู้เซฟนิรภัยในคอนโดให้ปลอดภัย และแน่นหนา เพื่อให้คุณสามารถปกป้องทรัพย์สินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ   1. เลือกตำแหน่งที่เหมาะสมการเลือกตำแหน่งในการติดตั้งตู้เซฟนั้น เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก เพราะตำแหน่งที่เหมาะสม จะช่วยซ่อนตู้เซฟจากสายตาของผู้ไม่หวังดี และทำให้การเข้าถึงตู้เซฟเป็นเรื่องที่ยากขึ้นดังนั้น ควรเลือกตำแหน่งที่สามารถซ่อนตัวได้ดี และไม่สะดุดตา เช่น ในตู้เสื้อผ้า หรือห้องเก็บของ เพราะการติดตั้งตู้เซฟในตำแหน่งที่ลับตา และคาดเดาได้ยาก จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมได้ดี   2. ใช้วัสดุที่สามารถช่วยยึดตู้เซฟได้การใช้วัสดุ เช่น สกรู ในการติดตั้งตู้เซฟ จะช่วยให้ตู้เซฟนั้นยึดแน่น และไม่หลุดออกจากตำแหน่งที่ติดตั้งได้ง่าย ยิ่งวัสดุที่ช่วยยึดมีความแข็งแรงตู้เซฟก็ยิ่งความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การติดตั้งตู้เซฟบนพื้นที่แข็งแรง และมั่นคง เช่น พื้นคอนกรีตที่แข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักของตู้เซฟได้ดี หากไม่มีที่ว่างบนพื้น ก็สามารถติดตั้งบนผนังที่แข็งแรงแทนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งตู้เซฟบนพื้นไม้ที่ไม่แข็งแรงเพียงพอ เพราะอาจไม่สามารถรองรับน้ำหนักของตู้เซฟได้ทั้งนี้ หากคุณกำลังสนใจ หรือมองหา ตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บรักษาทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ในที่พักอาศัย ก็ขอแนะนำผลิตภัณฑ์จาก SentrySafe ที่ได้รับการรับจากมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล จาก USA ก็สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: SentrySafeShopee: Naradee StoreLazada: Naradee StoreInbox: Naradee Store 

เนื่องจากข้อมูล และทรัพย์สินมีค่ามากขึ้นทุกวัน การรักษาความปลอดภัยในอาคารสำนักงาน จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริหารไม่ควรมองข้าม เพราะการเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย จะช่วยป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุนี้ “ตู้เซฟ” จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่เข้ามายกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และเพิ่มความมั่นใจได้ว่าทรัพย์สิน รวมถึงข้อมูลสำคัญของคุณ จะได้รับการปกป้องจากภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การโจรกรรม อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ในบทความนี้ Naradee จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า ทำไมการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในสำนักงานเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงบอกเหตุผลที่ควรติดตั้งตู้เซฟ เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัย และความมั่นใจ ถ้าหากพร้อมแล้ว ไปหาคำตอบกันเลย !ทำไมถึงควรให้ความสำคัญ กับความปลอดภัยในสำนักงานความปลอดภัยในสำนักงาน ไม่ใช่เพียงเรื่องของการป้องกันอุบัติเหตุ หรือภัยจากภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปกป้องทรัพย์สิน ข้อมูล และความลับทางธุรกิจ จากภัยคุกคามภายในองค์กรด้วยทั้งนี้ การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในอาคารสำนักงาน ถือเป็นสิ่งจำเป็นด้วยหลาย ๆ สาเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้การลักขโมยในที่ทำงานไม่ว่าจะองค์กรเล็ก หรือใหญ่ การก่อเหตุโจรกรรมในที่ทำงาน ถือเป็นปัญหารุนแรงที่ส่งผลกระทบใหญ่ต่อการเงินขององค์กร ซึ่งการขโมยในที่ทำงานมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่การขโมยของใช้สำนักงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงการยักยอกเงินในจำนวนมาก ซึ่งการขโมยในที่ทำงานอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความไม่พอใจในสวัสดิการ หรือค่าตอบแทน ปัญหาทางการเงินส่วนตัว คู่แข่งต้องการการลอบทำลาย หรือขโมยข้อมูล ความไม่เข้าใจในเรื่องจริยธรรมในที่ทำงานป้องกันทั้งคนใน และคนนอกตู้เซฟที่ดี และมีความปลอดภัยสูง ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลภายในองค์กร และบุคคลภายนอกเข้าถึงทรัพย์สิน รวมถึงข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การขโมย หรือการเปิดเผยข้อมูลลับ ที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรได้การโจรกรรมข้อมูลสำคัญ และความลับทางธุรกิจการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการขโมยข้อมูล เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดประเภทหนึ่ง ซึ่งสร้างความเสียหายมหาศาลต่อองค์กร ทั้งในแง่ของการสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน และการสูญเสียความเชื่อมั่นจากทั้งทางลูกค้า รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจโดยข้อมูลที่เสี่ยงต่อการถูกขโมยมีหลายประเภท ตัวอย่างเช่น ความลับทางการค้า (Trade Secrets) ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือพนักงานในองค์กร ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือพนักงานในองค์กร ข้อมูลทางการเงินขององค์กร และข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ เป็นต้น  การรักษาภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือขององค์กรการมีระบบรักษาความปลอดภัยในสำนักงาน จะช่วยรักษาภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น การขโมยทรัพย์สิน หรือข้อมูล เป็นต้นซึ่งการที่องค์กรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างจริงจัง ย่อมสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และแม้แต่พนักงานเอง โดยทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในสำนักงาน นอกจากจะช่วยป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินแล้ว ยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีได้อีกด้วย เพราะเมื่อพนักงานรู้สึกปลอดภัย และมั่นคงในที่ทำงานแล้ว พวกเขาก็จะทุ่มเทให้กับงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงต่าง ๆเทคนิคเลือกตู้เซฟนิรภัย ให้ตอบโจทย์การใช้งานในองค์กรหลังจากที่ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่า ทำไมผู้ประกอบการถึงควรให้ความสำคัญ กับการรักษาความปลอดภัยภายในสำนักงาน โดยหนึ่งในตัวช่วยที่จะเข้ามายกระดับความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ คงจะหนีไม่พ้นตู้เซฟ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรักษาสิ่งของมีค่าให้ปลอดภัย จากผู้ไม่ประสงค์ดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถพิจารณาคุณสมบัติของตู้เซฟ ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้งานกันได้ ดังนี้ขนาดของตู้เซฟขั้นตอนแรกในการเลือกซื้อตู้เซฟนิรภัย ให้พิจารณาจากขนาดของตู้เซฟก่อน โดยดูจากการใช้งานทั่วไปว่า ต้องการเก็บรักษาของมีค่าประเภทใดบ้าง หากต้องการเก็บเงินสด หรือเอกสารสำคัญทางธุรกิจ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตู้เซฟขนาดใหญ่ แต่ถ้าต้องการเก็บตัวอย่างสินค้า หรือแฟ้มเอกสาร อาจต้องเลือกตู้เซฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยน้ำหนักที่เหมาะสมหากมีความจำเป็นที่ต้องเคลื่อนย้ายที่ตั้งตู้เซฟอยู่บ่อยครั้ง แนะนำให้เลือกตู้เซฟขนาดเล็กมาใช้งาน เพื่อความรวดเร็วในการขนย้าย และป้องกันไม่ให้พื้นอาคารมีรอย แต่ถ้าหากต้องการป้องกันการถูกโจรกรรมโดยการเคลื่อนย้าย ก็แนะนำว่าควรซื้อตู้เซฟขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่มาใช้งานจะดีกว่าระบบล็อคของตู้เซฟระบบล็อกของตู้เซฟนิรภัย เป็นอีกหนึ่งในจุดที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณาให้ดี เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน และเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรให้ทันสมัย แนะนำให้เลือกตู้เซฟที่มีระบบการปลดล็อค ด้วยรหัสอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถตั้งรหัสได้ตามความต้องการ และมีระบบคีย์การ์ด รวมถึงระบบสแกนลายนิ้วมือมาตรฐานการกันน้ำ และกันไฟตู้เซฟที่เหมาะกับการใช้งานในสำนักงาน ควรมีความสามารถกันไฟ กันน้ำ และกันความร้อนได้ โดยจะต้องกันไฟได้ตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป และสามารถป้องกันน้ำได้นานถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งราคาของตู้เซฟประเภทนี้อาจจะสูงกว่าตู้เซฟนิรภัยทั่วไป แต่ช่วยลดโอกาสที่ของสำคัญในตู้เซฟ จะได้รับความเสียหายจากอัคคีภัยได้เป็นอย่างดีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจฟังก์ชันเพิ่มเติมของตู้เซฟ เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วย ก่อนตัดสินใจซื้อตู้เซฟมาใช้งานในสำนักงาน โดยฟังก์ชันเสริมอาจเป็นตะขอสำหรับแขวนที่ติดตั้งมาไว้ภายในตู้เซฟ ระบบกันความชื้น ระบบไฟ LED หรืออาจเป็นการบุนวมภายในตู้เซฟ เพื่อป้องกันของมีค่าที่มีน้ำหนักมากกระแทกกับผนังของตู้เซฟ เป็นต้นแนะนำตู้เซฟ Sentrysafe ที่เหมาะกับสำนักงานNaradee ขอแนะนำ SentrySafe ตู้เซฟคุณภาพระดับสากล ที่มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับ Hi-end ตอบโจทย์ด้วยฟังก์ชัน และดีไซน์ทันสมัย ซึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับวางในพื้นที่สำนักงาน จะแนะนำ ดังนี้ เช็กหรือดูสินค้าอื่น ๆ จาก Sentry Safe คลิกเซ็นทรี่เซฟ รุ่น EF4738Eตู้เซฟกันน้ำ-กันไฟ เหมาะสำหรับปกป้องเอกสารสำคัญ และสิ่งของมีค่าของคุณให้ปลอดภัย ด้วยระบบล็อคดิจิตอล สลักกลอน 5 ตัว สลักตาย 4 ตัว โดยมีโครงสร้างเหล็กกล้า ที่จะช่วยป้องกันการงัดแงะได้เป็นอย่างดีพร้อมทั้งชั้นวางของภายใน 3 ชั้น ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ให้การจัดเก็บของคุณสะดวกสบายอีกทั้งยังผ่านการทดสอบป้องกันไฟจาก UL (Underwriters Laboratories) ซึ่งเป็นหน่วยงานทดสอบ และรับรองมาตรฐานสินค้าด้านความปลอดภัย จาก USA ว่าสามารถทนความร้อนได้นานถึง 30 นาที ที่ระดับอุณหภูมิสูงถึง 760°C ให้คุณปกป้องเอกสาร ข้อมูลสำคัญ และของมีค่าหากเกิดไฟไหม้ได้อย่างมั่นใจนอกจากนี้ ตู้เซฟรุ่น EF4738E จาก SentrySafe ยังผ่านการทดสอบกันน้ำจาก ETL (Electrical Testing Laboratory) ว่าสามารถป้องกันเอกสาร และสิ่งของมีค่าจากเหตุน้ำท่วมในระดับความสูง 12 นิ้ว ได้นานถึง 72 ชั่วโมง  เซ็นทรี่เซฟ รุ่น S8771เซ็นทรี่เซฟ รุ่น S8771 นี้เหมาะกับสำนักงานที่ต้องการจัดเก็บเอกสารสำคัญ และทรัพย์สินมีค่าที่มีจำนวนเยอะโดยเซฟรุ่นนี้สร้างด้วยโครงสร้างเหล็กกล้า และปลอดภัยด้วยสลักกลอน 5 ตัว สลักตาย 3 ตัว โดดเด่นด้วยความสามารถในการป้องกันไฟได้ 1 ชั่วโมง ผ่านการทดสอบจากหน่วยงาน UL นอกจากนี้ เซฟรุ่น S8771 ยังมีระบบการล็อค 2 ชั้น ทั้งระบบรหัสดิจิทัล และกุญแจ ทำให้ป้องกันการงัดแงะได้อย่างมั่นใจ ตอบโจทย์การใช้งานในสถานประกอบการ ที่มีข้อมูล เอกสาร และสิ่งของมีค่าอย่างยิ่ง  สำหรับเจ้าของสำนักงานที่กำลังมองหา ตู้เซฟคุณภาพดีที่ได้รับรองความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับสากล ก็ขอแนะนำผลิตภัณฑ์จาก SentrySafe หากสนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: SentrySafeShopee: Naradee StoreLazada: Naradee StoreInbox: Naradee Store 

ปืน เป็นหนึ่งในอาวุธที่ใช้ป้องกันชีวิต และทรัพย์สินให้ปลอดภัยจากเหตุอันตรายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกัน ปืนก็เป็นอาวุธที่มีความอันตรายอยู่ไม่น้อย หากเก็บรักษาไม่เหมาะสม หรือเลือกตู้เซฟที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้งานดังนั้น การเลือกตู้เซฟเก็บปืนให้เหมาะสมกับการใช้งาน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากเก็บปืนไว้ในตู้เซฟทั่วไป อาจทำให้รูปร่างของปืนเสียหายได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการให้ผู้ไม่ประสงค์ดี นำปืนไปใช้อย่างผิดกฎหมาย จนก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในที่สุดในบทความนี้ Naradee จะพาทุกคนมาดูกันว่า การเลือกตู้เซฟสำหรับเก็บปืนที่ดี และเหมาะกับการใช้งาน ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง พร้อมกับแนะนำมาตรฐานรองรับความปลอดภัย ที่เซฟเก็บปืนคุณภาพดีต้องมี จะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปดูกัน5 สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อเซฟเก็บปืนการหาตู้เซฟเก็บปืนที่คุณภาพดี แข็งแรงทนทาน และผ่านการรองรับมาตรฐานความปลอดภัยจากสากล ล้วนมีส่วนการันตีได้ว่า ตู้เซฟที่สั่งซื้อมาใช้งาน สามารถรักษาความปลอดภัยของปืนได้จริง ทั้งยังช่วยดูแลปืนให้ปลอดภัยจากเด็ก และผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงอาวุธได้เป็นอย่างดี  แนะนำเซฟเก็บปืน จาก Sentry Safeซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีเซฟเก็บปืนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกตู้เซฟสำหรับเก็บปืนอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน ลองมาทำความเข้าใจ และสำรวจกันว่าเซฟเก็บปืนที่ดี ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้างจำนวน และขนาดของปืนสิ่งแรกที่ควรพิจารณาในการเลือกตู้เซฟ สำหรับเก็บปืนให้เหมาะสม คือ จำนวน และขนาดของปืนที่ต้องการจัดเก็บ โดยตู้เซฟควรมีขนาดพอดีกับจำนวนปืนทั้งหมด และมีพื้นที่เหลือสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์เสริมชิ้นอื่น ๆ เช่น กระสุน อุปกรณ์ทำความสะอาด ส้นแม็ก และสายสะพายปืน เป็นต้นความแข็งแรงทนทานคุณสมบัติสำคัญในการเลือกตู้เซฟเก็บปืน คือ ความแข็งแรง และทนทานต่อการงัดแงะ หรือตัดเลื่อยโดยผู้ไม่ประสงค์ดี โดยอาจเลือกจากวัสดุที่มีความแข็งแรง อย่าง เหล็กกล้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนำไปใช้ผิดโดยเด็ก หรือสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้าน รวมถึงป้องกันการถูกขโมยจากอาชญากร จนนำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดฝันในที่สุดระบบล็อคปลอดภัยอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ขาดไปไม่ได้ คือ ระบบล็อคที่ปลอดภัย แน่นหนา และผ่านการทดสอบมาแล้วว่าทำลายได้ยาก เพื่อสร้างความมั่นใจว่าปืนที่เก็บไว้ จะไม่สูญหายจากการถูกงัดแงะ หรือเข้าถึงโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต  โดยในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาระบบล็อคที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การล็อคกุญแจ รวมถึงการล็อคแบบรหัสดิจิทัล ซึ่งเป็นระบบล็อคที่ง่าย และสะดวกรวดเร็ว ทั้งยังเป็นระบบที่มีความซับซ้อนสูง จึงยากต่อการงัดแงะ หรือเจาะเข้าไปงบประมาณในกระเป๋าในท้องตลาดมีตู้เซฟเก็บปืนให้เลือกหลายราคา แตกต่างกันไปตามขนาด วัสดุ ระบบล็อค และมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้น ลองสำรวจงบประมาณที่มีอยู่ เพื่อเลือกตู้เซฟที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณ และความต้องการ ฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆนอกเหนือจากคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานด้วย เช่น สายเคเบิลสำหรับคล้อง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพกพา หรืออาจเป็นระบบการเปิดที่รวดเร็ว และเงียบ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดีรู้ ว่ามีอาวุธอยู่ในอาคาร เป็นต้นแนะนำ มาตรฐานรองรับความปลอดภัย ที่ตู้เซฟเก็บปืนควรมีเมื่อได้รู้กันไปแล้วว่า สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนเลือกตู้เซฟเก็บปืน มีอะไรบ้าง อีกหนึ่งสิ่งที่นักสะสมปืนต้องทำความเข้าใจให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อเซฟเก็บปืนมาใช้งาน คงจะหนีไม่พ้นการสังเกตมาตรฐานรองรับความปลอดภัย ซึ่งเป็นจุดที่ช่วยบ่งบอกได้ว่า ตู้เซฟที่สนใจสั่งซื้อ ได้ผ่านการทดสอบมาเรียบร้อยแล้วว่า ทนทานต่อการงัดแงะ และพร้อมทุกการใช้งานสำหรับนักสะสมปืนท่านใดที่ยังไม่แน่ใจ หรือสับสนอยู่ไม่น้อยว่ามาตรฐานรองรับความปลอดภัยของเซฟเก็บปืน ประกอบไปด้วยมาตรฐานอะไรบ้าง ไม่ต้องกังวลกันไป เพราะ Naradee ตัวจริงเรื่องอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ดังนี้California DOJ CertifiedCalifornia DOJ Certified เป็นมาตรฐานรองรับความปลอดภัยของตู้เซฟเก็บปืน ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 เนื่องจาก กระทรวงยุติธรรมแห่งแคลิฟอร์เนีย (CA DOJ) ซึ่งเป็นหน่วยงานทดสอบความปลอดภัยของอาวุธปืน ภายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่อนุญาตให้ผลิต นำเข้า และจำหน่ายปืนพกภายในรัฐ เว้นแต่จะผ่านการทดสอบการยิง และความปลอดภัย รวมถึงได้รับการรับรองให้จำหน่ายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ดังนั้น หากตัดสินใจซื้อตู้เซฟเก็บปืน ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา แนะนำให้ลองสังเกตสัญลักษณ์ “California DOJ Approved” บนตู้เซฟ รวมถึงมีสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย ด้านความแข็งแรง และทนทานต่อการโจรกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าตู้เซฟที่สั่งซื้อมา ผ่านการทดสอบแล้วว่าแข็งแกร่ง และจัดจำหน่ายอย่างถูกกฎหมายทั้งนี้ ตู้เซฟเก็บปืนที่ตรงตามข้อกำหนดของ CA DOJ ก็มีคุณสมบัติยิบย่อยอีกมากมาย ที่การันตีได้ว่าตู้เซฟสำหรับเก็บปืนทุกตู้ ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย และใช้งานได้จริง ดังนี้ ตู้เซฟสามารถบรรจุอาวุธปืนได้เต็มที่ ใช้งานง่าย และพร้อมรับทุกสถานการณ์ฉุกเฉินมีระบบรหัสล็อคทั้งแบบกลไก และแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่รองรอบการตั้งรหัสทั้งตัวเลข ตัวอักษร และสัญลักษณ์ตัวล็อคจะต้องได้รับการปกป้องด้วยแผ่นเหล็ก ที่ทนทานต่อการเจาะ หรืองัดแงะ อีกทั้งยังต้องป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีโครงสร้างของตู้นิรภัยต้องทำด้วยเหล็กเหล็กกล้า เพื่อป้องกันการงัดแงะได้อย่างมีประสิทธิภาพ  สำหรับเจ้าของอาวุธปืนคนไหน ที่กำลังมองหาเซฟเก็บปืนคุณภาพดี มีคุณสมบัติครบถ้วน และผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลแล้ว ว่าทนทานต่อการงัดแงะได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเหมาะกับการจัดเก็บปืนให้คงสภาพดีอยู่เสมอ ขอแนะนำตู้เซฟเก็บปืนจาก Naradee โดยเรามีตู้เซฟให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มั่นใจได้เลยว่าตู้เซฟที่จัดจำหน่าย ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกามาแล้วอย่างแน่นอน หากสนใจสามารถติดต่อมาได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: SentrySafeShopee: Naradee Store Lazada: Naradee StoreInbox: Naradee Store

ในปัจจุบันที่การเดินทาง และการพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ได้รับความนิยมมากขึ้น โฮมสเตย์ไม่เพียงแต่ต้องมีบรรยากาศที่น่าพักผ่อน แต่ยังต้องมีการจัดการที่ดี เพื่อความสะดวกสบายของผู้เข้าพัก และหนึ่งในเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การจัดการกุญแจสำรอง ซึ่งอาจเป็นปัญหาใหญ่ได้หากไม่มีการจัดการที่ดี ทำให้การเลือกกล่องเก็บกุญแจที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ บทความนี้ Naradee จะพาคุณไปทำความรู้จักกับคุณสมบัติที่ควรมองหาในกล่องเก็บกุญแจ สำหรับโฮมสเตย์ยุคใหม่ เพื่อให้การจัดการกุญแจสำรองเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัยเรื่องน่ารู้ ! โฮมสเตย์ยุคใหม่ กับการจัดการกุญแจอย่างมีประสิทธิภาพเจ้าของโฮมสเตย์ยุคใหม่ต้องเข้าใจว่า ธุรกิจนี้ไม่ใช่แค่การให้ที่พัก แต่ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัยแก่ผู้เข้าพัก ดังนั้น การจัดการกุญแจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเก็บกุญแจสำรองให้ปลอดภัย และเข้าถึงง่าย เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรละเลย ดังสาเหตุต่อไปนี้ความสำคัญของการจัดการกุญแจในโฮมสเตย์การมีระบบจัดการกุญแจที่ดี ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญหาย หรือการนำกุญแจไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการใช้กล่องเก็บกุญแจที่มีความปลอดภัย จะช่วยให้การจัดการกุญแจสำรองเป็นเรื่องง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นปัญหาการจัดเก็บกุญแจที่ไม่ดีหากไม่มีการจัดการที่ดี และกุญแจสำรองเกิดสูญหายขึ้นมา ก็จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้เข้าพักได้ อีกทั้งหากมีการใช้กุญแจโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็อาจทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยของทรัพย์สินในโฮมสเตย์ และความเชื่อมั่นของผู้เข้าพักได้ ดูสินค้ากล่องเก็บกุญแจ Master Lock คลิก  เผย 3 คุณสมบัติที่ควรมองหา ในกล่องเก็บกุญแจที่ได้มาตรฐานการเลือกกล่องเก็บกุญแจที่เหมาะสม และได้มาตรฐาน จะทำให้เจ้าของโฮมสเตย์จัดการกุญแจสำรองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถพิจารณาคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่วยให้การจัดการกุญแจเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัยได้ ดังนี้ ความปลอดภัย: ควรเลือกกล่องที่ทำจากวัสดุแข็งแรง ทนทานต่อการงัดแงะ หรือทำลาย ทั้งยังต้องทนต่อแรงกระแทกจากค้อน และการเลื่อยตัดได้อีกด้วยความสะดวกในการใช้งาน: ควรมีระบบล็อคที่ใช้งานง่าย เช่น รหัสตัวเลข หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม: ควรเลือกกล่องที่เหมาะกับการใช้งานทั้งภายใน และภายนอกอาคาร รวมถึงทนต่อสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดี ทั้งนี้ Naradee มีกล่องเก็บกุญแจหลากหลายรุ่น ที่ตอบโจทย์ความต้องการของโฮมสเตย์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว โดยมีกล่องเก็บกุญแจรุ่นต่าง ๆ ที่แนะนำ มีดังนี้ มาสเตอร์ล็อค รุ่น 5400EURDกล่องกุญแจแบบแขวนรุ่น 5400EURD จะมีขนาดกะทัดรัด ทันสมัย และสามารถตั้งรหัสได้ 4 หลัก อีกทั้งตัวกล่องเก็บกุญแจยังทำจากโลหะ ทำให้ทนต่อการกระแทกจากค้อน และการเลื่อยตัดได้ดี บวกกับมีฝาปิดแป้นรหัสเพื่อกันฝุ่น รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้  มาสเตอร์ล็อค รุ่น 5401EURDกล่องกุญแจติดผนังรุ่น 5401EURD เหนือกว่ากล่องกุญแจทั่วไปด้วยวัสดุโลหะคุณภาพสูงที่แข็งแกร่ง ทนทานต่อการงัดแงะ ไม่ว่าจะเป็นค้อนหรือเลื่อยก็เอาไม่อยู่ ! ทั้งยังตั้งรหัสผ่านได้ถึง 4 หลัก และติดตั้งง่ายสะดวกสบาย ช่วยปกป้องกุญแจสำคัญของคุณให้ปลอดภัยในระยะยาว  มาสเตอร์ล็อค รุ่น 5440Dมาสเตอร์ล็อครุ่น 5440D เป็นกล่องเก็บกุญแจรุ่นล้ำสมัยที่ใช้เทคโนโลยีบลูทูธ สามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนด้วยแอปพลิเคชัน Masterlock Vault Elocks ที่ใช้งานง่าย โดยคุณสามารถส่งรหัสผ่านชั่วคราว หรือถาวรให้บุคคลอื่นได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบแจ้งเตือนหากมีการพยายามปลดล็อคโดยไม่ได้รับอนุญาต ช่วยให้การจัดการเข้าออก และการตรวจสอบความปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด  เทคนิค จัดระบบกล่องเก็บกุญแจในโฮมสเตย์ ให้ปลอดภัย ไร้ของหายการจัดการกุญแจสำรองต่าง ๆ ในโฮมสเตย์ เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีผู้เข้าพักหลายคน ซึ่งถ้ากุญแจสำรองหาย หรือมีการใช้กุญแจโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะสร้างปัญหาให้กับผู้ดูแลโฮมสเตย์ และผู้เข้าพักได้ ซึ่งเทคนิคที่อยากแนะนำ เพื่อให้การจัดการกุญแจสำรองเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัย มีดังนี้กำหนดหมายเลขประตูการกำหนดหมายเลขประตูที่ชัดเจน และตรงกับหมายเลขห้องพัก จะช่วยให้การจัดการกุญแจสำรองอย่างมีระเบียบ และลดความสับสนในการจัดการตรวจสอบกุญแจสำรองเป็นประจำการตรวจสอบกุญแจสำรองเป็นประจำ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ากุญแจทุกดอกยังอยู่ในสภาพดี และพร้อมใช้งานเสมอทำ Tag ห้อยกุญแจเจ้าของโฮมสเตย์ควรทำ Tag ห้อยกุญแจ และเขียนหมายเลขห้องไว้ เช่น หมายเลขห้องพัก หรือชื่อผู้เข้าพัก ก็จะช่วยให้การค้นหากุญแจเป็นเรื่องง่าย และรวดเร็วขึ้นเก็บกุญแจไว้ในที่เดียว หรือไว้ตามห้องพักการเก็บกุญแจทั้งหมดในกล่องเก็บกุญแจเดียว ช่วยให้การจัดการกุญแจเป็นไปอย่างมีระบบ และลดโอกาสในการสูญหาย ในขณะเดียวกัน หากที่พักนั้นมีบ้านพักหลายหลัง ก็สามารถติดกล่องเก็บกุญแจไว้ตามหน้าห้องพักแต่ละห้อง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเมื่อยามจำเป็นได้สำรวจ 4 ข้อดีของกล่องเก็บกุญแจ Naradee กับความคุ้มค่าในระยะยาว การลงทุนในกล่องเก็บกุญแจที่มีคุณภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การจัดการกุญแจสำรองเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัย แต่ยังมีความคุ้มค่าในระยะยาว ดังนี้ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และเปลี่ยนกุญแจการเลือกใช้กล่องเก็บกุญแจที่มีความปลอดภัย และทนทานสูง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการซ่อมแซม หรือในกรณีกุญแจหายแล้วต้องเปลี่ยนอันใหม่ได้เพิ่มความพึงพอใจของผู้เข้าพักการมีระบบจัดการกุญแจ ล้วนมีส่วนเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้เข้าพักมากขึ้น เพราะพวกเขาจะรู้สึกมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว ทั้งยังลดความเสี่ยงในการสูญหายของทรัพย์สินในโฮมสเตย์ได้เป็นอย่างดีการบำรุงรักษาต่ำกล่องเก็บกุญแจที่มีคุณภาพ มักมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน ต้องการการบำรุงรักษาที่ต่ำ และทำความสะอาดง่าย ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาการลงทุนที่คุ้มค่าการเลือกลงทุนในกล่องเก็บกุญแจที่มีคุณภาพสูง อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงตามคุณภาพ แต่ถ้ามองในระยะยาว ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการกุญแจ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับโฮมสเตย์ได้อย่างคุ้มค่าทั้งนี้ หากคุณเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ที่กำลังมองหา กล่องเก็บกุญแจคุณภาพดี ขนาดกะทัดรัด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บรักษาลูกกุญแจ ก็ขอแนะนำผลิตภัณฑ์จาก Master Lock โดยสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @naradeeWebsite: Naradee.comProduct Category: Master LockShopee: Naradee StoreLazada: Naradee StoreInbox: Naradee Store 

     ต่อให้ถูบ้านเป็นล้านครั้ง... แต่พื้นเหล่านั้น ก็ยังดูไม่สะอาด!!!ประโยคอันชวนสงสัยให้ใครต่อใครทั้งหลายทั้งปวง ได้ลองกลับมาทบทวนถึงเรื่องราวของที่สุดจุดใต้ตำตอ แต่!คุณจะร้อง “อ๋อ..” ทันทีที่พบว่า หนึ่งในกิจวัตรที่ส่งผลต่อความเฉิดฉายให้สถานวิมานอย่าง “การทำความสะอาดพื้นบ้าน” นั้น ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่เพียงในวงโคจรของการ กวาดบ้านถูบ้าน เท่านั้น แม้ ณ วินาทีนี้ คุณอาจจะพรั่งพร้อมไปด้วยถังปั่นน้ำคุณภาพระดับจักรวาลแล้วก็ตามที “ความไม่สบายเท้า*” ในหลายครั้งมักเกิดขึ้นจากโสตสัมผัสที่ไปสะกิดต่อมกวนใจให้กับเหล่าแม่บ้าน ทั้งๆ ที่เพิ่งอุทิศเวลาในเมื่อสักครู่ ไปกับการมุมานะทั้งการกวาดและการถูอย่างตรากตรำ จนทำให้บางครั้งต้องนำไปสู่การตัดใจ ใส่เอี๊ยม และเตรียมเปิดห้องเก็บของหรือเข้าห้องครัว เพื่อเตรียมอุปกรณ์คู่ใจแล้ววนกลับไปกวาดซ้ำถูซ้ำเป็นอีกคำรบ (*มักเห็นเป็นคราบดำคราบฝุ่น เมื่อลองทดสอบด้วยการเอาทิชชู่หรือผ้าซับหมาดๆ กรีดลงบนพื้นที่แห้งหลังจากการกวาดถูพื้นใหม่ๆ) แต่ถ้าหากเราพบว่า “ความไม่สบายเท้า” ข้างต้นนั้น... อาจซ่อนอยู่ในห้วงแห่งความรู้สึก ผ่านทุกอณูทุกรูพรุนของพื้นวัสดุแล้วล่ะก็... มันอาจจะดีกว่านี้ก็เป็นได้นะ แม้ว่าตามอาคารบ้านเรือนของเราๆ นั้น จะไม่สามารถทำการเลือก 1 ใน 4 โปรแกรมหลักๆ ของบริษัททำความสะอาดพื้นได้ก็ตาม เพราะขั้นตอนที่พร้อมปฏิบัติงานด้วยเครื่องปั่นพลังสูงแบบที่เราเห็นๆ กันตามโรงพยาบาล หรือโรงแรมเหล่านั้น นอกจากจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการขัดหน้าผิวพื้นแล้ว ด้วยลักษณะของแรงดันในระดับสูงนี้เอง ยังสามารถช่วยดันเศษฝุ่นผง หรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เกาะติดฝังแน่น (โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการสัญจรมากๆ) ให้หลุดออกมาจากรูพรุนของพื้นวัสดุได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่การใช้เครื่องดูดฝุ่นด้วยระดับความถี่ที่คนในครอบครัว และเพื่อนข้างบ้านไม่รู้สึกรำคาญจนเกินไป ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการปัดกวาดแบบทั่วไปด้วยไม้กวาด เพราะด้วยจำนวนดอกหญ้าที่ร่วงโรยราดั่งมีวันหมดอายุนี้เอง ยังมีโอกาสต่อการหลงเหลือของฝุ่นละออง และอาจเกิดการฝังแน่นลงตามรูพรุนของพื้นวัสดุได้มากขึ้น ซึ่งหากมีการถูพื้นหลังการกวาดในตอนนั้น จึงยิ่งเป็นการดันให้สิ่งสกปรกให้ยิ่งฝัง “แน๊น แน่นนน” กว่าเดิมได้อีกด้วยนะ โลกจะจำทันที เมื่อวันนี้คุณสามารถถูบ้านได้เพียงรอบเดียว โดยใช้เพียงการสังเกต “สีของน้ำในถังปั่น” (ร่วมกับความไม่เกียจคร้านในการเปลี่ยนน้ำเด็ดขาด!) เพราะการถูซ้ำๆ ด้วยน้ำแค่ถังเดียวแบบนั้น หากเป็นพื้นที่ในบริเวณกว้างๆ ก็อาจเป็นเพียงการน้ำฝุ่นที่ดักจับมาชุบลงในถัง แล้วก็เปลี่ยนที่ให้ความสกปรกเหล่านั้น กลับไปสะสม ณ อีกพื้นที่หนึ่งเพียงเท่านั้นเอง ซึ่งหากทำให้โลกจำได้เช่นนั้น จึงอาจเป็นการประหยัดแรง และน้ำยาถูพื้นได้มากกว่าการต้องถูซ้ำเป็นรอบที่สองได้อีกด้วยนะ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นคุณภาพสูงนั้น นอกจากความสามารถในการขจัดฝุ่นได้อย่างล้ำลึก พร้อมให้กลิ่นที่สดชื่นหลังการถูแล้ว ยังต้องสามารถทำปฏิกิริยากับชั้น Top-layer ได้เป็นอย่างดี เพื่อคืนความสดใสให้กับพื้นวัสดุนั้นๆ ได้อีกด้วยนะ เช่นเดียวกันกับการดีไซน์สัดส่วนของบ้านเรือนสมัยนี้ ที่มีหน้าตาของพื้นบ้านแยกตามฟังก์ชันการใช้งานไม่ต่ำกว่าสองชนิด โดยลักษณะเฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นบ้านที่เกิดจากการรังสรรค์ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันนั้น เช่น - พื้นกระเบื้องดินเผาสุดคลาสสิคในโรงรถ - พื้นแกรนิโต้เคลือบเงาสุดหรูบริเวณชั้นล่าง - หรือพื้นบ้านไม้แท้อันสะท้อนรสนิยมบนชั้นสอง จึงควรค่าแก่การดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่พัฒนาขึ้นมาให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวนั้นๆ โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับทุกคุณสมบัติและโครงสร้างของวัสดุที่ต่างชนิดกันแบบนั้นด้วยนะ เอชจี ไชน์ คลีนเนอร์ ขนาด 1L ราคา 520.00.- ทำความสะอาดและให้ความเงาในคราวเดียวกัน ใช้สำหรับพื้นกระเบื้องและหินธรรมชาติทุกชนิด ช่วยเพิ่มความเงา (โทนซาติน) ,กันฝุ่น ให้กลิ่นหอม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่เคลือบเงาด้วย เอชจี ซาตินกลอส วิธีใช้ 1) ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1:100 หรือผลิตภัณฑ์ 1 ฝา (100 มล.) ต่อน้ำ 1 ถัง (10 ลิตร) 2) ใช้ผ้าหรือไม้ถูพื้นทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก *1 ลิตร ใช้กับพื้นที่ขนาด 20 ตารางเมตร ได้ประมาณ 20 ครั้ง ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นกระเบื้องทั้งหมด เอชจี ทำความสะอาดกระเบื้องผิวเงา (สตรีคฟรี) ขนาด 1L ราคา 365.00.- สำหรับทำความสะอาดประจำวัน “กระเบื้องผิวมัน” ที่มีความเงามาก โดยไม่ทิ้งรอยคราบไว้ ใช้ได้กับกระเบื้องแกรนิตโต้ (พอร์ซเลน) ผิวขัดมัน -polished, กระเบื้องเซรามิคชนิดเคลือบ, หินแกรนิตผิวขัดมัน, หินธรรมชาติผิวขัดมันชนิดอื่นที่ไม่มีแร่แคลไซด์เป็นส่วนประกอบ *ปริมาณการใช้โดยทั่วไปผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำ 1 ต่อ 100 วิธีใช้ 1) สำหรับพื้นผิวทั่วไป ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำในอัตราส่วน 1:100 ใช้ผ้าชุบแล้วเช็ดบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก 2) สำหรับพื้นผิวมีคราบฝุ่น ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำในอัตราส่วน 1:50 ใช้ผ้าชุบแล้วเช็ดบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาด ทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก คำแนะนำ: หลังใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีรอยคราบบนพื้นผิว อาจมีสาเหตุดังนี้ 1) เคยใช้น้ำยาทำความสะอาดชนิดอื่นมาก่อน (ให้ล้างน้ำยาที่ตกค้างบนพื้นผิวออกให้หมดด้วยเอชจี รีมูพเวอร์ หรือ เอชจี ซุปเปอร์ รีมูพเวอร์) 2) ผสมผลิตภัณฑ์ เอชจี สตรีค ฟรี เข้มข้นเกินไป (ควรผสมน้ำมากขึ้น) 3) ผ้าที่ใช้เช็ดถูสกปรก (ควรล้างหรือเปลี่ยนผ้าที่ใช้เช็ดถูให้สะอาด) ข้อควรระวัง ห้ามใช้กับหินอ่อน, หินปูน, หินขัด, หินธรรมชาติที่มีแร่แคลไซค์เป็นส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นกระเบื้องทั้งหมด เอชจี มาร์เบิล นิวทรัล คลีนเนอร์ ขนาด 1L ราคา 380.00.- สำหรับ ทำความสะอาด ดูแลรักษาพื้นหินอ่อน,หินไลม์สโตน, หินทราเวอทีน, หินขัด, หินแกรนิต,หินธรรมชาติทุกชนิด ไม่มีกรด, ด่าง หรือส่วนผสมที่ทำลายพื้นผิว, ความเงา และไม่มีผลเสียต่อพื้นที่เคลือบน้ำยากันซึม, พื้นคริสตัลไลส์, พื้นเคลือบแว็กซ์ก้ที่มีรอยต่อไม่สนิท แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เอชจีที่ใช้สำหรับกลุ่มพื้นไม้ลามิเนต วิธีใช้ สำหรับพื้นผิวทั่วไป ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 128 (พื้นผิวที่ค่อนข้างสกปรก ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำ 1 ต่อ 64) ปัดกวาดพื้นให้ปราศจากฝุ่น ใช้ผ้าหรือไม้ถูพื้นทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นหินธรรมชาติทั้งหมด เอชจี มาร์เบิล วอชแอนด์ไชน์ ขนาด 1L ราคา 625.00.- ทำความสะอาดประจำวัน และให้ความเงาในคราวเดียวกัน สำหรับหินอ่อน, หินแกรนิต, หินปูน, หินทาเวอทีน, หินขัด ใช้ได้ดีกับพื้นที่เคลือบเงา หรือพื้นที่เคยลงเอชจี มาร์เบิล อิมเพร็กเนเตอร์, เอชจี มาร์เบิล ไชน์ฟินิช ไม่ทำลายผิววัสดุ สามารถย่อยสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ วิธีใช้ 1. กวาดพื้นให้ปราศจากฝุ่นผง 2. ผสมผลิตภัณฑ์ กับน้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1 ต่อ 60 3. ใช้ผ้าหรือไม้ถูพื้นทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นหินธรรมชาติทั้งหมด เอชจี ลามิเนต วอชแอนด์ไชน์ ขนาด 1L ราคา 420.00.- ทำความสะอาด และให้ความเงาพื้นไม้ลามิเนต เหมาะสำหรับทำสะอาดประจำสัปดาห์ ช่วยลดปัญหาพื้นไม้ลามิเนตผิวหมองจากการใช้งาน วิธีใช้: 1) ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 2) ใช้ผ้าชุบผลิตภัณฑ์ที่เตรียมไว้ให้เปียกพอหมาด ๆ (อย่าให้พื้นเปียกชุ่มมาก) ถูพื้นในบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้โดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นไม้ลามิเนตทั้งหมด เอชจี ปาร์เก้ วอชแอนด์ไชน์ ขนาด 1L ราคา 465.00.- ทำความสะอาดประจำวัน สำหรับพื้นไม้ปาร์เก้ หรือไม้ที่เคลือบด้วยวานิช , โพลียูรีเทน, แลคเกอร์ ให้กลิ่นหอม เติมความเงาและรักษาความงามของพื้น วิธีใช้ 1. กวาดพื้นให้ปราศจากฝุ่นผง 2. การทำความสะอาดโดยทั่วไป ผสมผลิตภัณฑ์ กับน้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 (100 มล. ต่อน้ำ 10 ลิตร) หรือผสมน้ำในปริมาณน้อยลงในกรณีที่พื้นสกปรกมาก 3. ใช้ผ้าหรือไม้ถูพื้นทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก ข้อควรระวัง: ห้ามใช้กับพื้นไม้อัด, พื้นไม้ลามิเนต หรือพื้นไม้จริงที่ไม่ได้เคลือบด้วยแล็คเกอร์, วานิช, โพลียูริเทน ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นไม้ปาร์เก้ทั้งหมด เอชจี ไวนิล คลีนแอนด์ไชน์ ขนาด 1L ราคา 360.00.- ทำความสะอาดพื้นกระเบื้องยางประจำวัน ให้ความเงา และช่วยปกป้องพื้นผิวในคราวเดียวกัน ให้กลิ่นหอมสดชื่นทุกครั้งที่ถูพื้น * ปริมาณการใช้โดยทั่วไปผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 วิธิใช้ 1) ผสมผลิตภัณฑ์ประมาณ 125 – 250 มล. ต่อน้ำ 10 ลิตร (ประมาณ 40-80 เท่า) หากทำความสะอาด โดยใช้เครื่องให้ผสมผลิตภัณฑ์ประมาณ 70 มล. ต่อน้ำ 10 ลิตร (ประมาณ 140 เท่า) 2) ใช้ผ้าหรือไม้ถูพื้นทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นกระเบื้องยางทั้งหมด  

 “Thailand Safety Training by Master Lock“ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา บจก.นาราดี เทรดดิ้ง และ Master Lock Company LLC ได้ร่วมจัดงานสัมมนาภายใต้โครงการ “Thailand Safety Training by Master Lock SAFETY SOLUTIONS ” เพื่อส่งเสริมด้านงานวิชาการ และหลักการปฏิบัติงานในระดับสากล ให้กับชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานจังหวัดชลบุรี ภายใต้หัวข้อ “การควบคุมตัดแยกพลังงานที่ทำให้เกิดอันตรายด้วยระบบล็อกและระบบป้ายเตือน” The Control of Hazardous Energy with LOTO (Log Out/Tag Out Procedure) ซึ่งได้รับเกียรติโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก Master Lock ประเทศสหรัฐอเมริกา 1. William Belongea Safety Service Program Manager 2. Samuel Chu Sales Director, Greater Asia หากมีข้อสงสัยใดๆ ทางเรายินดีให้คำปรึกษา และแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งานทุกประเภท สอบถามรายละเอียด Line ID : @naradee แอดไลน์คลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/%40naradee Tel.092-254-5313 (คุณฝน), 080-804-5445 (คุณโอ๋)

“ร้อยเรียงการเดินทางตลอด 20 ปี… HG in Thailand” ใครจะไปคิดกันล่ะว่า การมุ่งมั่นค้นหาสูตร “น้ำยากันลื่น” จากเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้วนั้น จะกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญให้กับการผจญภัยอันไม่รู้จบ และยังคงโลดแล่นอยู่ในโลกของ “ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด” มาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อสายลมแห่งการเรียนรู้ชวนให้ออกเดินทางไปตามเข็มทิศแห่งโอกาส โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เมืองอัลเมเรอ (Almere) ประเทศเนเธอร์แลนด์ แม้จะเป็นเมืองที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ล่าสุด แต่หมุดของเราที่ปักไว้บนแผนที่ดังกล่าว ก็ยังมีเรื่องราวของ “โรงงานผลิตน้ำยาทำความสะอาด” ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี นั้นซ่อนอยู่ “HG” บริษัทที่ก่อตั้งโดย Håkan Gip แห่งนี้ นอกจากจุดเริ่มต้นด้วยการพัฒนาสูตร “น้ำยาล้างสระว่ายน้ำ” และความโดดเด่นทางนวัตกรรมอย่างมีอัตลักษณ์นั้น ยังสามารถสร้างการประจักษ์โดยเฉพาะในกลุ่ม D.I.Y และขยายไปทั่วภาคพื้นยุโรป จนก้าวกระโดดขึ้นเป็นผู้นำในวงการโดยใช้การหมุนวนของห้วงเวลาเพียงรอบทศวรรษเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบัน การมีผลิตภัณฑ์ที่ถูกสรรสร้างออกมาอย่างต่อเนื่องแล้วกว่า 300 รายการ ก็ยิ่งสร้างความแตกต่างจากกลุ่มน้ำยาแบบทั่วๆ ไปได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณสมบัติในการขจัดคราบ และการดูแลพื้นผิวชนิดนั้นๆ ได้อย่างเฉพาะเจาะจง (specialty cleaning products) ด้วยนิยามของคำว่า “ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดคุณภาพสูง” นั้น นับเป็นนิยามที่สดใหม่มากๆ สำหรับเมืองไทย เราจึงมิอาจรอช้าที่จะให้คำว่า “โอกาส” ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง… และการโต้คลื่นแห่งความท้าทายลูกใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว… เมื่อเราสามารถบรรลุข้อตกลงการเป็นตัวแทนจำหน่าย พร้อมได้เป็นผู้นำการถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ ไปสู่การค้นหา ทำความรู้จัก และสื่อสารกัน ณ ที่จุดบรรจบกับกลุ่ม “คนรักษ์บ้าน” ในเมืองไทย ห้างฯ “โฮมโปร” และงาน “บ้านและสวน” จึงเป็นเวทีแรกๆ และจุดนัดพบที่อบอุ่นตลอดมา สถานที่ซึ่งทำให้เราได้พบปะ และทำความรู้จักซึ่งกันและกันอย่างรอบด้าน… - ทั้งความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ - การจัดเรียงสินค้าในลักษณะ Brand blocks - จำนวนผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาได้มากกว่าใคร - โบว์ชัวร์สไตล์ Door-to-Door paper สุดคลาสสิค จุดเด่นเหล่านี้ ก็ยิ่งช่วยเติมเต็มความน่าสะดุดตา ส่งเสริมความน่าดึงดูดใจ และเพิ่มพลังให้การบอกต่อแบบปากต่อปากนี้… ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!!! จึงทำให้ตลอดเส้นทาง 20 ปีที่ผ่านมา และกำลังดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้จบนี้ นับเป็นเรื่องที่จะถูกจัดเก็บไว้ในความทรงจำอย่างยั่งยืน และเคียงคู่ไปกับกลุ่มของ “คนรักษ์บ้าน” ที่สัมผัสแล้วถึงความแตกต่างนี้ ด้วยการมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลานั่นเอง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ “HG บลู” และ “HG สเกล อะเวย์” ที่มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดคราบน้ำ หรือคราบหินปูนสะสมสำหรับห้องน้ำ และไม่ทำลายพื้นผิววัสดุนี้เอง จึงมักถูกยกให้เป็น “น้ำยาขจัดคราบสามัญ” ให้กับใครต่อใครหลายบ้านเลยทีเดียว เราจึงพร้อมฉลองการ “ครบรอบ 20 ปี HG in Thailand” กับแคมเปญดีๆ ตลอดปีนี้ ด้วยโปรโมชั่นที่ลดสูงสุดถึง 20%* (*โดยสามารถติดตามการอัพเดทโปรโมชั่นได้ที่คอมเม้นด้านล่างนะคะ) HG มีจำหน่ายแล้วที่** : Homepro, บุญถาวร, Villa market, Tops, Gourmet market (**สอบถามสาขาที่จัดจำหน่ายได้ทาง inbox) สอบถามเพิ่มเติม สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ ติดตามโปรโมชั่นได้ที่ Shopee https://shorturl.asia/60soO Lazada https://shorturl.asia/GT3DN สอบถามเพิ่มเติม Line : @naradee โทร. 0808045445 #20ปีHGinThailand #HG #ใช้แล้วใช่เลย

เต็มที่ทุกเมนูรังสรร หมดห่วงทุก #คราบมัน... แถมยังแฮปปี้ทุกครั้งที่ได้เข้าครัว ตอบโจทย์ผู้ที่รัก และใส่ใจกับทุกเมนูอาหาร ด้วยโซนทำครัวที่มี " ความสะอาดแบบไร้คราบมัน " อันเป็นพื้นฐานของสุขอนามัยที่ดี ตั้งแต่แรกเริ่ม และไปจนสุดขั้นตอนถึงการเช็ดล้างทำความสะอาด ทั้ง... - คราบไขมัน!!! ที่มาจากขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ - คราบไขมัน!!! ที่กระเด็นโดยรอบระหว่างการทำอาหาร - คราบไขมัน!!! ที่ยังตกค้างหลงเหลือจากการใช้สารต่าง ๆ รวมถึงวิธีการทำความสะอาดที่ไม่ดีมากพอ ซึ่งการละเลยในบางขั้นตอน หรือหากถูกปล่อยทิ้งไว้จนนานเกินไป ก็อาจกลับกลายเป็นได้ทั้งปหล่งสะสมเชื้อโรค และคราบมันเหนียวเยิ้ม (grease) ที่ขจัดออกได้ยาก รวมทั้งสร้างความเสียหายให้กับหัวเตาได้ด้วยนั้นเอง เมื่อน้ำเปล่าก็ไม่สามารถเช็ดถูเจ้าคราบกวนใจเหล่านี้ออกได้ ยิ่งซ้ำร้ายยังทำให้กลายเป็นการขยายวงกว้างขึ้นไปอีก ซึ่งการผสมด้วยสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะทั้งเบคกิ้งโซดา, น้ำส้มสายชู, แอมโมเนีย หรือน้ำสบู่ แม้จะมีความสามารถในการขจัดคราบออกได้ก็จริงอยู่ แต่อาจจะต้องพิจารณาให้ดี และมีความระมัดระวังในการใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องด้วย " มิใช่หลักของการขจัดคราบอย่างสมบูรณ์ " จึงอาจไม่ได้เหมาะกับอุปกรณ์ขัดล้างทุกชนิด และพื้นผิวทุกประเภท เพราะอาจจำเป็นต้องแลกทั้งรอยขีดข่วนเสียหาย (scratch) การมีกลิ่นฉุนตลบอบอวนไปทั่วห้อง รวมทั้งสารตกค้างที่เสี่ยงต่อการทำครัวในคราวถัดไปนั่นเอง ฉะนั้น ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบไขมันโดยเฉพาะสำหรับห้องครัวนั้น ตัวสารสำคัญจะมีคุณสมบัติในการยึดจับ และดึงโมเลกุลของกรดไขมัน (grease molecules) ที่ติดอยู่บนพื้นผิวนั้น ๆ ออกมาพร้อมกับการชำระล้างได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก - จึงทำให้สามารถขจัดคราบได้อย่างหมดจด - โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ - และไม่ทำลายพื้นผิวทุกชนิด* แม้กับโครงสร้างที่เปราะบางอย่างหิน ธรรมชาติ หรือท็อปเคาน์เตอร์ก็ตาม " HG คราบไขมัน " จึงย่อมเป็นทางเลือกให้คุณได้เต็มที่กับทุกเมนูรังสรร หมดห่วงในทุกคราบมัน... แถมยังแฮปปี้ทุกครั้งที่ได้เข้าครัว *พื้นผิวในห้องครัวมักจะประกอบไปด้วยวัสดุหลากหลายชนิด ทั้งสแตนเลส, อลูมิเนียม, เซรามิค, หินธรรมชาติ, พลาสติก, ท็อปเคาน์เตอร์ ฯลฯ HG ขจัดคราบไขมัน มีจำหน่ายแล้วที่* : Homepro, บุญถาวร, Villa market, Tops, Gourmet market (*สอบถามสาขาที่จัดจำหน่ายได้ทาง inbox) ติดตามข่าวสารได้ที่ Website : www.Naradee.com Line ID : @naradee หรือคลิก LINE Tel. 080-8045445

"ล้างเครื่องซักผ้า" ให้ล้ำลึก... แบบไม่ต้องนึกถึงช่างไปอีกนานนับปี เพราะ HG มี 2 ตัวช่วยชั้นยอด... พร้อมตอบโจทย์ และครบทุกคุณสมบัติที่เครื่องซักผ้าดีๆ เครื่องหนึ่งต้องการ!!! ปัญหาในระยะสั้น... คราบสารเคมีที่มักตกค้างจากโปรแกรมการซักของเครื่อง เช่นผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือแร่ธาตุต่างๆ จากน้ำประปานั้น (โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆถังซัก และภายในระบบส่งถ่ายน้ำ) นับเป็นเป็นปัจจัยหลักๆของการเกิดสิ่งปฏิกูลสะสมขึ้นได้ทั้งคราบเมือก สิ่งสกปรก หรือเศษตะกอน ฯลฯ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาของกลิ่นเหม็นอับ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ (ซึ่งบางคนอาจยังไม่เคยคาดคิดเลยว่า อาจสามารถเกิดขึ้นได้จากจุดนี้เช่นกัน) หรือปัญหาระยะยาว... หากยังปล่อยให้เจ้าคราบดังกล่าว ถูกทอดทิ้งอยู่เป็นเวลานาน และไม่ได้รับการล้างทำความสะอาดที่ดีมากพอ ก็ทักก่อให้เกิดตัวเป็นคราบหนักสะสมอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในระบบท่อส่งน้ำ จนพาลหนักเข้าขั้นที่ว่า มักเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ เกิดการชำรุดเสียหาย และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องนั้นลดลง ฉะนั้น "การล้างถังซัก" และดูแลชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในอย่างถูกวิธี ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด โดยไม่ก่อให้เกิด ความเสียหายกับวัสดุภายใน ควบคู่ไปกับโปรแกรมการล้างถังซักอย่างเป็นประจำ ย่อมช่วยให้คุณพร้อมใช้งานเครื่องซักผ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในทุกๆครั้ง อย่างไร้ความกังวล... "สยบทั้งปัญหาในระยะสั้น และระยะยาว"

- ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือกลิ่นเหม็นอับภายในเครื่องซัก - ช่วยให้โปรแกรมการซักนั้นๆ สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ - รวมทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนเกิดควมชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ซีลยาง ตัวกรอง หรือข้อต่อต่างๆ HG ขจัดกลิ่นเหม็นเครื่องซักผ้า (removes dirt & soap deposits) - เหมาะสำหรับการทำความสะอาดประจำเดือน (4 สัปดาห์/1 ครั้ง) - ผงขจัดกลิ่นเครื่องซักผ้า ทั้งคราบเมือกสกปรก, คราบผงซักฟอก (ทั้งชนิดผลและชนิดน้ำ)ที่ตกค้างอยู่ในระบบท่อ, ตัวกรอง หรือซีลยาง ณ จุดต่างๆภายในเครื่องซักผ้า - ซึ้งเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นอับ, คราบไขมัน หรือเศษตะกอนต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ HG service engineer for washing machines and dishwashers ผงล้างเครื่องซักผ้า และเครื่องล้างจาน (soves & prevent) - เหมาะสำหรับการล้างเครื่องครั้งใหญ่ให้สะอาดหมดจด (3เดือน/1ครั้ง) - ขจัดคราบหนักสะสม โดยเฉพาะปัจจัยที่ส่งผลทำให้เครื่องซักมีปัญหา - คุณสมบัติการขจัดคราบต่างๆ ทั้งคราบหินปูน, ตะกรัน, คราบเมือก หรือแบคทีเรียต่างๆ เป็นต้น (สาเหตุของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในเครื่องซักผ้า) - ช่วยป้องกันชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ให้เกิดการสึกหรอก่อนเวลาอันควร - จึงช่วยยืดอายุการใช้งาน และคงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง ติดตามข่าวสารได้ที่ Website : www.Naradee.com Line ID : @naradee หรือคลิก LINE Tel. 080-8045445

"ใช้ “HG” แก้ท่อตัน!!! เห็นผลทันที เริ่มตั้งแต่ 5 นาทีแรก*!!! น้ำยาเจ้าแรก!!! ที่แก้ “ปัญหาท่อน้ำอุดตัน**” โดยใช้ปฏิกิริยาทางเคมีที่ชื่อ “Saponification**” . ซึ่งทำให้สิ่งปฏิกูลที่อุดตันอยู่นั้น เกิดความอ่อนนิ่มลง และมีการแตกตัว จนสลายไปในที่สุด • **ทั้งคราบสบู่ เส้นผม และยาสระผมที่อ่างล้างหน้า หรือท่อน้ำทิ้งของห้องน้ำ • โดยเฉพาะตามแนวข้อต่อ หรือทางไหลตามท่อน้ำทิ้ง แม้ว่าสารฟอกขาว (Bleach) รวมทั้งเบคกิ้งโซดา หรือน้ำส้มสายชูนั้น จะเป็นตัวเลือกของการขจัดคราบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และใช้งานได้เป็นอย่างดีในหลายๆ กรณีก็ตาม แต่กลับได้รับการพิสูจน์แล้วว่า อาจไม่ได้เป็นประโยชน์มากนัก กับการใช้เพื่อกำจัดสิ่งกีดขวางที่อุดตันอยู่ภายในท่อระบายน้ำ เนื่องจากสารประกอบในกลุ่มนี้โดยส่วนมาก มักจะไม่มีคุณสมบัติในการสลายคราบไขมัน เศษอาหาร เส้นผม และอื่นๆ ที่กีดขวางการไหลของน้ำนั่นเอง ซ้ำร้าย หากยังมีการใช้งานอยู่เป็นประจำ ก็ยิ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันได้มากยิ่งขึ้น และอาจสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ได้เป็นเท่าทวีเลยทีเดียว ดังนั้น นอกจากการหมั่นสังเกตุอัตราการไหลระบายของน้ำอยู่เป็นประจำ และกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะก่อให้เกิดการอุดตัน หรือลดจำนวนสิ่งปฏิกูลต่างๆ ตั้งแต่ในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมหนัก จนนำไปสู่เรื่องของกลิ่นเหม็น และน้ำที่เริ่มเอ่อล้นจนยากต่อการระบายแล้ว การใช้ “HG drain and plug unblocker” เพื่อเคลียร์ทุกสัญญาณที่ก่อให้เกิดการอุดตันภายในท่อน้ำ จึงช่วยแก้ปัญหาท่อตัน อันเป็นหนึ่งในปัญหาของบ้านที่มักสร้างความจุกจิกกวนใจได้มากที่สุด… อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ… ด้วยการเริ่มทำปฏิกิริยาตั้งแต่ 5 นาทีแรกของการใช้งาน!!! *HG drain and plug unblocker มีคุณสมบัติการทำปฏิกิริยาโดยสมบูรณ์ (Self-acting) เมื่อในเทปริมาณที่แนะนำตามฉลากลงในท่อระบายน้ำ และรออย่างน้อย 5 นาที *หากต้องการให้แน่ใจว่า การอุดตัน ณ จุดนั้นๆ จะสลายไปอย่างสมบูรณ์ ให้ทำการเทน้ำยา และรอประมาณ 30 นาที เพื่อให้กระบวนการกำจัดสิ่งอุดตันนั้น เกิดการแตกตัว และหลุดออกจากกัน จากนั้นจึงทำการชำล้างส่วนที่เหลือออกด้วยน้ำเปล่า ติดตามข่าวสารได้ที่ Website : www.Naradee.com Line ID : @naradee หรือคลิก LINE Tel. 080-8045445

เพราะ “การขจัดคราบ การปกป้อง และช่วยคืนความสวยงามให้กับพื้นผิวของวัสดุ” นั้น นับได้ว่า เป็นหัวใจหลัก และสำคัญที่สุด ในการตัดสินใจเลือกซื้อ “ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด” เสมอมา ถึงแม้ในปัจจุบัน “เรื่องของกลิ่น” ทั้งชนิดที่มีกลิ่นหอม หรือไม่มีกลิ่นนั้น จะนับเป็นอีกหนึ่งในข้อพิจารณาที่ผู้ใช้มักให้ความสำคัญเป็นอันดับรองๆ ลงมาก็ตาม แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เรื่องนี้กลับสร้างความกังวลใจไม่น้อย หรือจากตัวอย่างการรายงานที่ระบุไว้ใน Journal of Environmental Health เรื่อง Prevalence of fragrance sensitivity in the American population ซึ่งว่ากันด้วยเรื่อง ความเสี่ยงจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม พบว่า มีจำนวนประชากรกว่า 10% ของสหรัฐฯ นั้น เคยเกิดการระคายเคืองกับผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม และมีแนวโน้ม ที่อาจนำไปสู่โรคทางเดินหายใจชนิดต่างๆ และอาการแพ้ส่วนผสมอื่นๆ ร่วมด้วย จนนำไปสู่การตั้งมาตรการเพื่อการควบคุมในเรื่องดังกล่าว และเริ่มมีความเข้มงวดตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ทั้งในด้านคุณลักษณะต่างๆ และเพื่อลดความเสี่ยงของการใช้น้ำหอม (Fragrances) เป็นส่วนผสม ซึ่งมี 2 รูปแบบที่มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน คือ 1.กลุ่ม synthetic fragrances เช่น galaxolide สารสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติการสร้างกลิ่นที่คล้ายดอกไม้ หอมละมุน และสะอาดสดชื่น (ส่วนใหญ่ถูกใช้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอม) 2.กลุ่ม masking fragrances สารที่มีคุณสมบัติในการปกปิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สารลดแรงตึงผิว หรือกรดกำมะถันต่างๆ ฉะนั้น เหตุผลของทั้งการแต่งกลิ่น หรือการไม่แต่งกลิ่นนั้น อาจยังเป็นไปตามวงจรของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองต่อตามความต้องการ ของผู้บริโภคก็จริงอยู่ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เรื่องนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา และยังส่งผลในด้านลบอยู่ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดนั้น หากเรามีการใช้งานที่ไม่ถูกต้องตามหลักการปฎิบัติ และไม่เข้าใจพื้นฐานของในเรื่องกลิ่นที่ดีมากพอ .คุณก็อาจได้รับเพียง กลิ่นที่สะอาด (smell of clean) แต่ไม่เคยได้เข้าถึง ความรู้สึกของความสะอาด (feel of clean) อันแท้จริงได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ HG ซึ่งมีพลังในการขจัดคราบสูง โดยไม่ทำลายพื้นผิวนั้น จึงมีการแจ้งข้อควรระวัง หากมีการสัมผัสกับสารเคมีชนิดต่างๆ รวมถึงในเรื่องของกลิ่นที่อาจมีความฉุนบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง (ตามประสาทการรับรู้กลิ่นของแต่ละบุคคล) โดยทั้งนี้จะมีการระบุไว้ที่ฉลากอย่างชัดเจนในเรื่องของวิธีการใช้งานว่า “หลังจากฉีด หรือใช้น้ำยาเช็ดลง ณ จุดนั้นๆ แล้ว ควรทิ้งไว้เป็นเวลานาน XX นาที เพื่อให้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ทำปฏิกิริยากับพื้นผิววัสดุได้อย่างล้ำลึก(ระยะเวลาเป็นไปตามการทดสอบผ่านห้องปฏิบิติการ) รวมทั้งยังเป็นการป้องกัน และให้ผู้ใช้ได้หลีกเลี่ยงจากจุดดังกล่าว ก่อนที่จะกลับมาทำการขัดล้างในขั้นตอนสุดท้ายต่อไป ซึ่งจุดนี้ นับเป็นไฮไลต์สำคัญที่ช่วยให้เราได้เข้าใจถึง “ความรู้สึกที่สะอาด” อย่างครบถ้วน ทั้งการขจัดคราบตามวัตถุประสงค์ ความสะดวกต่อการใช้งาน และลดการปนเปื้อนที่อาจอยู่กับกลิ่นหอมสังเคราะห์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการรับรู้ถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ และใช้งานตามคำแนะนำที่ระบุไว้อยู่บนฉลากนั้น ย่อมเป็นไปตามหลักการ และขั้นตอนของการทำความสะอาดที่ดี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงที่สุด และที่สำคัญ… ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรานั่นเอง!!! ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบรนด์ HG www.naradee.com/HG

“น้ำยาถูพื้นที่ใช่” จะไม่ทําลายชั้นเคลือบผิว!!! เพราะนอกจาก “ชั้นเคลือบผิว ” (Coating Layer) จะเป็นดั่งปราการชั้นสำคัญของพื้นวัสดุซึ่งช่วยป้องกันสิ่งสกปรก, การสะสมของคราบ และรอยขีดข่วนต่างๆ จากการสัญจรด้วยในเวลาเดียวกัน แล้วยังช่วยลดโอกาสการสร้างความเสียหายต่อชั้นโครงสร้าง เช่น คราบฝุ่นฝังแน่น ความหมองคล้ำ หรือเกิดรอยร้าวผุพังต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และเพราะ ชั้นเคลือบพื้นผิวได้รับการออกแบบ และมีองค์ประกอบตามลักษณะโครงสร้างของพื้นชนิดนั้นๆ ที่แตกต่างกันนี้เอง จึงทำให้การเลือกใช้ “น้ำยาถูพื้น ” สำหรับวัสดุชนิดนั้นๆ เพื่อตอบโจทย์การทำความสะอาด และไม่ทำลายชั้นเคลือบผิวอย่างมีประสิทธิภาพย่อมเป็นปัจจัยสำคัญของการดูแลพื้นบ้านให้สวยใส และสะอาดตาได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง HG ใช้แล้ว ใช่เลย

Available Now!!!
HG Floor Cleaning Product @ Tops, Lotus, Villa Market 1. HG ลามิเนต วอชแอนด์ไชน์ สำหรับพื้นลามิเนต 2. HG ปาร์เก้ วอชแอนด์ไชน์ สำหรับพื้นไม้ปาร์เก้ 3. HG มาร์เบิล วอชแอนด์ไชน์ สำหรับพื้นหินอ่อน และหินแกรนิต 4. HG สตรีคฟรี สำหรับพื้นกระเบื้องผิวเงา “HG ลามิเนต วอชแอนด์ไชน์” สำหรับพื้นลามิเนต /www.naradee.com/hg-laminate-gloss-cleaner ทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนตและพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ประจำสัปดาห์ สูตรเข้มข้น กลิ่นหอมสดชื่น และให้ความเงา ช่วยให้พื้นไม้ลามิเนตดูสวยเหมือนใหม่ ใช้ได้กับพื้นไม้ลามิเนตทุกชนิด ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ วิธีใช้ 1. ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 หรือ 1 ต่อ 50 ถ้ำพื้นสกปรกมาก 2. ใช้ผ้าหรือม็อบถูพื้นชุบผลิตภัณฑ์ที่เตรียมไว้ให้เปียกพอหมาด ๆ (อย่าให้พื้นเปียกชุ่มมาก เพราะอาจทำให้พื้นบวมได้) 3. ถูพื้นในบริเวณที่ต้องการ ปล่อยไว้ให้แห้งเองโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก 

*ข้อควรระวัง* • ระวังอย่าให้น้ำยากระเด็นเข้าตา และสัมผัสผิวหนัง • อย่าถูพื้นจนเปียกชุ่ม เพราะน้ำจะซึมลงที่รอยต่อทำให้ไม้ลามิเนตบวม 

วิธีเก็บรักษา • ปิดฝาให้สนิท เก็บ ไว้ในที่แห้งและมิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร สัตว์เลี้ยง เปลวไฟ ความร้อน “HG ปาร์เก้ วอชแอนด์ไชน์” สำหรับพื้นไม้ปาร์เก้ /www.naradee.com/HG-parquet-gloss-cleaner ทำความสะอาดประจำวัน และให้ความเงาในคราวเดียว สูตรเข้มข้น มีกลิ่น หอมสดชื่น ใช้สำหรับพื้นไม้ปาร์เก้ที่เคลือบผิวด้วยโพลียูรีเทน, วานิช, แลคเกอร์ ทำให้พื้นไม้เงาสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 

วิธีใช้ 1. ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 (50 มล. ต่อน้ำ 5 ลิตร) หรือผสมน้ำในปริมาณน้อยลงในกรณีที่พื้นสกปรกมาก 2. ใช้ผ้าหรือ ไม้ถูพื้นทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการ 3. ปล่อยทิ้งไว้ให้พื้นแห้งเอง 

*ข้อควรระวัง* • ระวังอย่าให้น้ำยากระเด็นเข้าตา • ห้ามใช้กับพื้นไม้อัด ,พื้นไม้ลามิเนต, คลิกปาร์เก้, พื้นไม้จรงิที่ไม่ได้เคลือบผิวด้วยแล็คเกอร์, วานิช, โพลียูริเทน ให้ใช้เอชจี ลามิเนต วอชแอนด์ไชน์แทน 

วิธีเก็บรักษา
• ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่แห้งและมิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร สัตว์เลี้ยง เปลวไฟ ความร้อน “HG มาร์เบิล วอชแอนด์ไชน์” สำหรับพื้นหินอ่อน และหินแกรนิต /www.naradee.com/hg-marble-wash-and-shine ทำความสะอาดพื้นประจำวันสำหรับหินอ่อน, หินแกรนิต , ไลม์สโตน, หินขัด , ปูนเปลือย และหินธรรมชาติทุกชนิด โดยไม่กัดกร่อนพื้นผิว สูตรเข้มข้น นอกจากจะทำความสะอาดแล้วยังให้ความเงา และกลิ่นหอมทุกครั้งที่ถูพื้น 

วิธีใช้ 1. ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 2. ใช้ผ้ำหรือไม้ถูพื้นทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการ 3. ปล่อยไว้ให้พื้นแห้งเองปริมาณการใช้ 1 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 20 ครั้ง 

*ข้อควรระวัง*
• ระวังอย่าให้น้ำยากระเด็นเข้าตาและถูกผิวหนัง 

วิธีเก็บรักษา
• ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่แห้งและมิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร สัตว์เลี้ยง เปลวไฟ ความร้อน “HG สตรีคฟรี” สำหรับพื้นกระเบื้องผิวเงา /www.naradee.com/Streak-free-Polished-tile-cleaner ผลิตภัณฑสูตรเข้มข้น สำหรับทำความสะอาดประจำวันกระเบื้องผิวเงาโดยไม่ทิ้งรอยคราบ ให้กลิ่นหอมสดชื่น ใช้ได้กับกระเบื้องแกรนิตโต้ (พอร์ซเลน) ผิวขัดมัน , polished, กระเบื้องเซรามิค ชนิดเคลือบ, หินแกรนิตผิวขัดมัน , หินธรรมชาติผิวขัดมันชนิดที่ไม่มีแร่แคลไซด์เป็นส่วนประกอบ 

วิธีใช้ 1. ผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำในอัตราส่วน 1:100 (หรือ 1 : 50 ในกรณีมีคราบสกปรก ) 2. ใช้ม็อบถูพื้นชุบแล้ว เช็ดถูบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด
 3. ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเอง คำแนะนํา หลังใช้ผลิตภัณฑ์แล้วยังมีรอยคราบบนพื้นผิวอาจมีสาเหตุดังนี้ • เคยใช้น้ำยาทำความสะอาดชนิดอื่นมาก่อน (ให้ล้างน้ำยาที่ตกค้างบนพื้นผิวออกให้หมดด้วยเอชจี รีมูฟเวอร์ หรือเอชจี เอ็กซ์ พาว คลีนเนอร์) • ม็อบชุบน้ำยาชุ่มเกินไป • ผสมผลิตภัณฑ์เอชจี สตรีคฟรี เข้มข้นเกินไป (ควรผสมน้ำมากขึ้น) • น้ำยาที่ใช้สกปรกมากแล้ว ควรเททิ้ง แล้วผสมน้ำยาใหม่ • ให้แก้ปัญหาด้วยการใช้ผ้าแห้งสะอาด เช็ดถูรอยคราบนั้นออก 
*ข้อควรระวัง* • ระวังอย่าให้น้ำยากระเด็นเข้าตา และถูกผิวหนัง • ควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันการระคายเคือง • ห้ามใช้กับหินอ่อน , หินปูน , หินขัด, หินธรรมชาติที่มีแร่แคลไซค์เป็นส่วนประกอบ 

วิธีเก็บรักษา
• ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่แห้งและมิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร สัตว์เลี้ยง เปลวไฟ ความร้อน

" ตู้เซฟแคชเชียร์ " ที่พี่ๆร้านอาหารไว้วางใจ!!! SentrySafe ตู้เซฟคุณภาพสูงจาก USA ตอบโจทย์การจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมั่นใจ ให้ทุกจังหวะของงานแคชเชียร์เป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติ ลุคดุดันไม่เกรงใจใคร ฟังก์ชันดีไซน์ระดับ Hi-end DIGITAL LOCK ทำงานด้วยระบบล็อคดิจิตอล พร้อมDelay mode ฟีเจอร์หน่วงเวลา เมื่อกดรหัสผิดพลาด ANTI-DRILL DOOR ดีไซน์ป้องกันการเขียล้วงขโมยทรัพย์สินจากช่องใส่เงิน ANTI-DRILL DOOR บานประตูถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการเจาะทำลาย STEEL CONSTRUCTION โครงสร้างผลิตจากเหล็กกล้า แข็งแรง ทนทาน 3 LIVE-LOCKING BOLTS ปลอดภัยด้วยระบบล็อคกลอนสลัก 3 ต่ำแหน่ง BOLT DOWN HARDWARE มาพร้อมอุปกรณ์ยึดพื้น หรือผนัง เพื่อป้องกันการยกย้าย ให้ "ตู้เซฟเก็บเงินสด" เป็นเสมือนธนาคารไซซ์มินิที่ช่วยได้ทั้งการลดขั้นตอน พร้อมเพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกกิจกรรมของงานแคชเชียร์ รายละเอียดกลุ่มเซฟเก็บเงินสดทุกรุ่น Deposit safe ติดตามข่าวสารได้ที่ Website : www.Naradee.com Line ID : @naradee หรือคลิก LINE Tel. 080-8045445

ตอบทุกโจทย์ หมดทุกปัญหา “เชื้อรา คราบน้ำ หรือตะไคร่สะสม” การเข้าทำความสะอาดอย่างรวดเร็วในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วง 48 ชม. แรก หลังจากมวลน้ำลดลง รวมกับการคัด แยกเฟอร์นิเจอร์จำพวกงานไม้ โซฟา พรม หรือวัสดุต่างๆ ที่มีความสามารถในการดูดซับน้ำได้เป็นอย่างดีออกจากพื้นที่ นอกจากจะช่วยลดความเสียหายที่มักเกิดขึ้นกับวัสดุ หรืออุปกรณ์ต่างๆ แล้ว ยังนับเป็นขั้นตอนสำคัญในการกำจัด เชื้อโรค และคราบสะสมต่างๆ โดยเฉพาะกับ “เจ้าตัวเชื้อรา” ที่มักเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอย่างร้ายแรง ซึ่งหนึ่งในจุดที่ไม่ควรพลาดก่อนการคลีนนิ่ง! เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายตัวของเชื้อราอย่างได้ผล คือ การกำจัดวง รัศมีตามรอยคราบ หรือแนวราดำที่มีการก่อตัวในบริเวณนั้นๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีคุณสมบัติใน การ “กำจัดเชื้อราดำ” ในระดับของสปอร์นั่นเอง จากนั้นจึงค่อยทำการพิจารณาถึงรอยคราบน้ำ หรือตะไคร่ โดยเฉพาะกับในพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับการท่วมขังของน้ำโดยตรง ทั้งในบริเวณของพื้นบ้าน หรือแนวกำแพงในแนวตั้ง ยิ่งมีการสะสมอยู่เป็นเวลานาน... ยิ่งต้องการวิธีการขจัดคราบให้ถึงในระดับของรูพรุน (porous) แม้ว่าโดยทั่วไป มักมีการแนะนำให้ใช้น้ำยาที่ผสมคลอรีน (chlorine bleach) ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำความสะอาด และการฆ่าเชื้อที่ดีแล้วก็จริง แต่ส่วนใหญ่กลับยังไม่ค่อยพบถึงข้อมูลในสิ่งที่เหล่า “คนรักษ์บ้าน” อยากทราบกัน ทั้งในเรื่องของการเกิดผลเสีย หรืออาจทำลายต่อวัสดุพื้นผิวใดๆ บ้างหรือไม่ หากความพรุน และลักษณะทางโครงสร้างของพื้นผิว กลับยังเป็นหัวข้อสำคัญให้คุณได้พิจารณาถึงวิธีการทำความสะอาดสำหรับเคสนี้... การใช้ผลิตภัณฑ์ภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นบ้านที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการขจัดคราบได้ลึกถึงในระดับของรูพรุน และยัง คงรักษาสภาพทางโครงสร้างของวัสดุไว้ได้เป็นอย่างดีนั้น... ย่อมช่วยตอบทุกโจทย์ หมดทุกปัญหาของเรื่อง “เชื้อรา คราบน้ำ หรือตะไคร่สะสม” หลังน้ำลดได้นั่นเอง “HG พิชิตคราบหลังน้ำลด” - HG Mould Spray ขนาด 500 มล. - HG เอ็กซ์ พาว คลีนเนอร์ ขนาด 1 ลิตร อ้างอิงข้อมูลจาก : www.fema.gov/pdf/rebuild/recover/ www.c-cure.com/doc/techBulletins/ www.floodsafety.com/national/property/cleanup/

HG Tips : ไกด์ทริค 3 วิธี... ดีต่อ “ร่องยาแนว” ทั้งในห้องน้ำ และกับห้องครัว เพราะโครงสร้างของยาแนวที่เป็นรูพรุน (porous) สลับชั้นกันอยู่เป็นจำนวนมาก มักส่งผลให้เกิดการดูดซับจากทั้งความชื้น สิ่งสกปรก คราบตะกรัน รวมทั้งคราบน้ำมันหลังการทำครัวอย่างที่หลีกเลี่ยงได้ยากมาก! ซึ่งหากเราทำความสะอาดได้ไม่ดี ก็มักจะก่อให้เกิดคราบสกปรกสะสม หรือในกรณีที่แย่กว่านั้น... ก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา (Mould) ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ในท้ายที่สุดนั่นเอง “ทำไมร่องยาแนวถึงสกปรกง่าย?” เพราะกิจวัตรประจำวันต่างๆ โดยเฉพาะจากการอาบน้ำและการทำครัวนี้เองจึงทำให้ทั้งคราบน้ำ คราบไขมัน หรือคราบสะสมที่เกิดจากการใช้พื้นที่นั้นซ้ำๆ ล้วนยิ่งทำให้ความชื้นสามารถซึมเข้าสู่ร่องยาแนวได้ไม่มากก็น้อย และหากปล่อยทิ้งไว้นานวัน(โดยไม่ได้รับการดูแล) ก็อาจเกิดขึ้นได้ทั้งคราบสกปรก คราบราดำ รวมทั้งสีของยาแนวที่มีความหม่นหมองก่อนเวลาอันควร ซึ่งทั้งหมดนั้น มิได้มีเฉพาะเหตุผลในด้านสุขอนามัยเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้คงไว้ซึ่งความสวยงามด้วยเช่นกัน เราจึงมีเคล็ดลับดีๆสำหรับ “คนรักษ์บ้าน” ที่ช่วยให้การทำความสะอาดยาแนวเป็นเรื่องง่ายๆ และยังส่งผลดีต่อพื้นผิววัสดุได้ในเวลาเดียวกัน... ด้วย 3 เทคนิคง่ายๆดังนี้ 1. การปกป้องร่องยาแนวจากคราบต่างๆ หากเราป้องกันไม่ให้คราบไขมัน สิ่งสกปรก ความชื้น หรือคราบตะกรันต่างๆสามารถแทรกซึมเข้าไปได้ ยาแนวของเราก็จะอยู่ในสภาพที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และไม่เกิดคราบฝังลึก แม้โดยส่วนใหญ่แล้วกูรูมักจะแนะนำให้ถูด้วยเทียนไขลงบนยาแนวเพื่อสร้างชั้นกันน้ำและสิ่งสกปรกต่างๆได้ก็จริงอยู่ แต่วิธีการดังกล่าว ก็อาจมีส่วนให้การเกิดความเสียหายได้ของชั้นโครงสร้างในภายหลังได้เช่นกัน (หากจุดนั้นๆ คราบน้ำสามารถแทรกซึมผ่านเข้าไปได้ จนเกิดการสะสมของความชื้นมากขึ้น แล้วไม่สามารถระบาย ออกได้นั่นเอง) ซึ่งจุดนี้เอง ที่นับว่าเป็นความแตกต่างจากการเคลือบปกป้องด้วย HG super protector สำหรับร่องยาแนวของผนัง และพื้นโดยเฉพาะ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ให้การปกป้องสูงสุดด้วยการสร้างชั้นเคลือบผิว เพื่อป้องกันคราบสกปรกและยังคงคุณสมบัติในการระเหยของความชื้นไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การระบายอากาศที่ดี การระบายอากาศที่ดีก็นับเป็นอีกหัวข้อที่สำคัญ เพราะความชื้นที่แทรกซึมและสะสมอยู่ตามร่องยาแนวเป็นเวลานานๆย่อมเป็นสาเหตุของเกิดเชื้อราดำขึ้นได้นานๆ ย่อมเป็นสาเหตุของเกิดเชื้อราดำขึ้นได้ซึ่งการเปิดประตูทิ้งไว้ แล้วใช้พัดลมเพื่อช่วยให้เกิดการถ่ายเทของอากาศอยู่เป็นประจำ ก็นับว่าเป็นเช็คลิสต์ที่สำคัญในการป้องกันปัญหานี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่หากเกิดคราบราดำ หรือมีการเริ่มกระจายตัวของเชื้อราแล้ว เราแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อราได้ตั้งแต่ในระดับของสปอร์อย่าง “HG โมลด์ สเปรย์” เพื่อการจำกัดพื้นที่และขจัดคราบสะสมที่เป็นหนึ่งใน สาเหตุหนึ่งของโรคทางเดินหายใจที่เป็นอันตราย 3. ทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ การหมั่นทำความสะอาดที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย และสะดวกอย่างสเปรย์ทำความสะอาดหรือการเปลี่ยนน้ำในถังน้ำอยู่เป็นประจำ ก็มีส่วนช่วยป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าซึมลงลึกเข้าไปในร่องยาแนว และทิ้งคราบไว้ดั่งยังมิได้ทำความสะอาดนั่นเองซึ่งการป้องกันไม่ให้ยาแนวสกปรกก่อนเวลาอันควร หรือยากต่อการทำความสะอาด รวมทั้งการทำให้ยาแนวมีรูพรุนน้อยลง แต่ยังคงการระบายอากาศที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงทั้งความหม่นหมอง และสุขอนามัยที่ดี ย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญ... แม้ในจุดเล็กๆ ตามร่องยาแนวก็ตาม รายการผลิตภัณฑ์ HG สำหรับการดูแลร่องยาแนวให้สะอาดอยู่เสมอ – HG เคลือบยาแนว ขนาด 250 มล. - น้ำยาเคลือบกันคราบสกปรกทุกชนิด ไม่ให้ซึมลงร่องยาแนว และช่วย ป้องกันการเกิดราดำ – HG สเปรย์ทำความสะอาดยาแนว ขนาด 500 มล. - ขจัดคราบตามร่องยาแนว คราบฝุ่นฝังแน่น คราบไขมัน – HG บาธรูม โมลด์ สเปรย์ ขนาด 500 มล. - กำจัดคราบเชื้อราและคราบราดำในห้องน้ำ

ตอบชัดๆ แบบมือโปร! “โซฟาผ้า” ควรทำความสะอาดอย่างไร? ยิ่งรอยคราบเปื้อนนั้นๆ เกิดการซึมลึกจนขจัดออกได้ยาก… ยิ่งมักเป็นรอยด่าง และติดอยู่กับโซฟาตัวนั้นๆ ได้ไปตลอดกาล… แม้ “โซฟาผ้า” จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกของผิวสัมผัสอันอ่อนนุ่ม และชวนหลงใหลไปด้วยสีสัน หรือลวดลายที่มีให้เลือกอยู่อย่างมากมายหลากหลายชนิด แต่หากขาดการดูแลที่ดี และการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ก็มักส่งผลให้เกิดการกักเก็บของฝุ่น คราบสะสมที่ขจัดออกยาก และการเสื่อมเสียของโครงสร้างก่อนเวลาอันควร (ในกรณีที่ใช้น้ำยาผิดวัตถุประสงค์ และมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนที่ค่อนข้างรุนแรง) ซ้ำร้ายอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่คนส่วนใหญ่อาจมองข้ามได้ด้วยเช่นกัน เราจึงนำเคล็ดลับการดูแล และการขจัดคราบสกปรกบนโซฟา (รวมทั้งพรม) อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากทุกคนได้ลองดูกันจ้า 1.ลองสังเกตุที่ลักษณะเนื้อผ้า และหากมีคำแนะนำจากผู้ผลิต หรือป้าย Care Tag (แผ่นสีขาวเล็กๆ) จะมี Cleaning Code เขียนกำกับไว้ เพื่ออธิบายว่า โซฟาตัวนั้นๆ ควรต้องทำความสะอาดด้วยวิธีการอย่างไร ก็ให้เราลองทำความสะอาดตามคำแนะนำ ซึ่งโดยหลักๆ จะมีประเภทของการทำความสะอาด 2.ดูดฝุ่นก่อนถูเช็ดด้วยน้ำสะอาด เพื่อเป็นการดักเก็บสิ่งสกปรกที่อยู่ชั้นบนสุด และสามารถหลุดออกได้โดยง่าย พร้อมทั้งลดการการสะสมของสิ่งสกปรกไม่ให้เป็นคราบฝังลึกลงในเนื้อผ้านั่นเอง 3.ทำความสะอาด และเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะกับประเภทของโซฟาผ้าแต่ละชนิด ซึ่งตัวเลือกอย่าง “เอชจี เอ็กตร้า สเปรย์” ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยคุณสมบัติพลังออกซิเจน (active oxygen) ช่วยให้การขจัดคราบที่หนัก และปกป้องการเกิดคราบสะสมใหม่ (dirt-repellent effect) จึงนับว่า ช่วยให้การทำความสะอาดโซฟาผ้าและพรมนั้น สามารถทำได้โดยง่าย และเป็นประจำในทุกๆ ครั้งที่มีคราบสกปรกสะสม คราบหกเลอะเทอะ หรือคราบเปอะเปื้อนได้อย่างทันท่วงที “เอชจี เอ็กซ์ตร้า” ให้การขจัดทุกคราบบน “โซฟาผ้า” เป็นเรื่องง่าย!!! www.naradee.com/HG-stain-spray-extra-strong 1. ลองสังเกตุที่ลักษณะเนื้อผ้า และหากมีคำแนะนำจากผู้ผลิต หรือป้าย Care Tag (แผ่นสีขาวเล็กๆ) จะมี Cleaning Code เขียนกำกับไว้ เพื่ออธิบายว่า โซฟาตัวนั้นๆ ควรต้องทำความสะอาดด้วยวิธีการอย่างไร ก็ให้เราลองทำความสะอาดตามคำแนะนำ ซึ่งโดยหลักๆ จะมีประเภทของการทำความสะอาด ดังนี้ W - Water-based Cleaner สามารถใช้น้ำในการทำความสะอาดได้ S - Solvents สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาด และตัวทำละลายบางชนิด เช่น สารฟอกขาว หรือเบคกิ้งโซดาในการทำความสะอาด แต่ห้ามใช้น้ำเปล่าในการทำความสะอาด WS - ​Water-based Cleaner & Solvents สามารถทำความสะอาดโดยการใช้น้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือตัวทำละลายได้ X - สามารถทำความสะอาดได้โดยการใช้เครื่องดูดฝุ่นเท่านั้น ไม่สามารถใช้น้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือสารเคมีใดๆ ได้ 2.ดูดฝุ่นก่อนถูเช็ดด้วยน้ำสะอาด เพื่อเป็นการดักเก็บสิ่งสกปรกที่อยู่ชั้นบนสุด และสามารถหลุดออกได้โดยง่าย พร้อมทั้งลดการการสะสมของสิ่งสกปรกไม่ให้เป็นคราบฝังลึกลงในเนื้อผ้านั่นเอง 3.ทำความสะอาด และเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะกับประเภทของโซฟาผ้าแต่ละชนิด 3.1 หากเป็นรุ่นที่สามารถถอดออกมาซักได้ ทางเราแนะนำให้ใช้วิธีการซักมือ และหลีกเลี่ยงการซัก ด้วยเครื่องในทุกกรณี เพราะมักจะส่งผลให้เกิดการเสียทรง รอยยับ การเกิดขุย หรือความเสียหายของเนื้อผ้า 3.2 จากนั้นทำความสะอาดตามการแนะนำที่ระบุไว้บน Care Tag 3.3 โดยหลักๆ นั้น ให้เราระวังในเรื่องความชุ่มของน้ำไม่ให้มีปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะความชื้น ในระหว่างการทำความสะอาด อาจเกิดการสะสมอยู่ตามเส้นใยผ้า จนเป็นสาเหตุของเชื้อรา และจุดสะสมของคราบฝุ่นได้อย่างง่ายดาย 3.4 หากโซฟาอยู่ในกลุ่มที่สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดได้ ให้ทดลองเช็ดถูเบาๆในบริเวณเล็กๆดูก่อน เพื่อทดสอบการออกฤทธิ์ และการกัดกร่อนร่วมด้วยว่า สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้กับโซฟาตัวนั้นได้อย่างแท้จริงหรือไม่ จึงทำให้การทำความสะอาดอย่างเป็นประจำด้วย “เอชจี เอ็กตร้า สเปรย์” ที่มีคุณสมบัติในการขจัดคราบฝังแน่น ด้วย“พลังออกซิเจน”(คุณสมบัติเดียวกันกับการขจัดคราบหนักบนเสื้อผ้า) ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีและมีประสิทธิภาพ มากกว่าการใช้เบคกิ้งโซดา หรือสารฟอกขาว ซึ่งในบางกรณี มักสร้างความเสียหายมากจนถึงในระดับของเส้นใยผ้า จนเป็นเหตุของเกิดทั้งความหม่นหมองของสีผ้า และปัญหาของรอยด่างในเวลาต่อมานั่นเอง ซึ่งตัวเลือกอย่าง “เอชจี เอ็กตร้า สเปรย์” ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยคุณสมบัติพลังออกซิเจน (active oxygen) ช่วยให้การขจัดคราบที่หนัก และปกป้องการเกิดคราบสะสมใหม่ (dirt-repellent effect) จึงนับว่า ช่วยให้การทำความสะอาดโซฟาผ้าและพรมนั้น สามารถทำได้โดยง่าย และเป็นประจำในทุกๆ ครั้งที่มีคราบสกปรกสะสม คราบหกเลอะเทอะ หรือคราบเปอะเปื้อนได้อย่างทันท่วงที * ขจัดคราบสกปรกฝังแน่น เช่น คราบซอส, ช็อกโกแลต, น้ำผลไม้, ไวน์, กาแฟ, ลิปสติก, ยาขัดรองเท้า, คราบไขมัน หรือคราบฝุ่นฝังแน่น ฯลฯ * ประสิทธิภาพสูงด้วยพลังออกซิเจน ทำให้ขจัดคราบได้อย่างหมดจด * ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ * เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งกับพรม, เฟอร์นิเจอร์บุผ้า, เบาะผ้าในรถยนต์ “เอชจี เอ็กซ์ตร้า สเปรย์” ให้การขจัดทุกคราบบน “โซฟาผ้า” เป็นเรื่องง่าย!!! www.naradee.com/HG-stain-spray-extra-strong Ref. * https://hg.eu/uk/tips/how-to-remove-stains-from-a-sofa#hg-removes-all-stains-from-a-sofa * https://www.thespruce.com/how-to-use-oxygen-bleach-2146373 * https://www.livinginsider.com/inside_topic/8186/fablic-sofa-cleaning-technique.html * https://www.banidea.com/how-to-choose-a-sofa/ * https://www.merrymaids.com/cleaning-tips/diy/how-to-clean-a-fabric-sofa/